บันไดขั้นต่อไปของสปรินเตอร์ดาวรุ่ง "ชานเทลล์ มอริซเซ็ตต์"

กีฬาแห่งชาติ 2024 ที่จังหวัดจันทบุรีแจ้งเกิดเด็กหญิงอายุ 16 ปีจากจังหวัดสุรินทร์ สู่แนวหน้าวงการวิ่งระยะสั้นสปรินเตอร์ทีมชาติไทย ชานเทลล์ มอริซเซ็ตต์ ก้าวขึ้นบันไดอีกขั้นของความฝันในฐานะนักวิ่ง

เด็กหญิงวัย 16 ปีจากสุรินทร์

ปี 2024 เรียกได้ว่าเป็นปีแจ้งเกิดนักวิ่งระยะสั้นหน้าใหม่ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชานเทลล์ เด็กหญิงอายุ 16 ปี จากโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ โดยก่อนจะประสบความสำเร็จในกีฬาแห่งชาติปี 2024 เธอได้แจ้งเกิดจากดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิกมาแล้ว

“หนูเริ่มจากคนที่ไม่ได้ชอบกีฬาเลยค่ะ เพราะเหนื่อย แต่ครูให้ไปแข่งกีฬาอบต. จนมีคนมาเห็นแวว พาไปซ้อมต่อ ตอนนั้นหนูก็ยังไม่ชอบเท่าไหร่ คิดว่าวิ่งแล้วจะได้อะไร เพราะเหนื่อยมาก มันไม่มีกำลังใจค่ะ ตอนนั้นคือ ม.1 ไปแข่งวิ่งอบต. 100 กับ 200 เมตรแล้วเข้าที่หนึ่งทุกรายการ”

ครูกบ ธีรกรณ์ จารัตน์ จากโรงเรียนปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นหนึ่งในครูและโค้ช ที่ปลูกปั้นชานเทลล์ จากก้าวแรกให้มีเบสิคในการวิ่งระยะสั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านสู่อาจารย์ปัญญา พลบางแก้ว เนื่องจากต้องย้ายโรงเรียนไปอีกอำเภอหนึ่ง 

“ช่วงแรกผลงานหนูไม่ได้ดีมากหรอกค่ะ ก่อนจะเริ่มดีขึ้น แล้วทำให้หนูชอบการวิ่ง ก็คือซ้อมอยู่สามปีค่ะ หลังจากไปซ้อมกับอาจารย์ปัญญาพล ก็คิดว่าการวิ่งเปลี่ยนชีวิตเราได้ และให้อะไรกับเราเยอะมาก จากแต่ก่อนหนูไม่เคยมีเป้าหมาย ไม่เคยวางแผนอนาคต แต่พอแข่งวิ่งแล้วชนะก็ภูมิใจ”

แจ้งเกิดในรายการดาวรุ่งฯ

เพราะโอกาสในชีวิตไม่ได้มีมากเหมือนคนทั่วไป ชานเทลล์ ที่หารายได้จากการวิ่งชนะได้เป็นครั้งแรก ทำให้เธอมองเห็นอนาคตบนเส้นทางนี้ แม้เงินก้อนแรกจะไม่มากนัก แต่สิ่งที่มากกว่า คือความภูมิใจ บวกกับพ่อและแม่ที่สนับสนุนและให้กำลังใจเสมอ จากวันหนึ่งที่เคยขออนุญาตไปเรียนโรงเรียนกีฬา แล้วยังไม่เป็นผล สู่วันที่ได้รับการสนับสนุนบนเส้นทางการวิ่งอย่างเต็มที่

“ตอนแรกพ่อแม่ไม่ได้สนับสนุนค่ะ หนูเคยขอไปเรียนโรงเรียนกีฬา ตอนนั้นก็คิดว่าเราอาจจะทำไม่ได้ แต่พอหนูเริ่มจริงจังจริงๆ แล้วเห็นผลมาก พ่อแม่ก็สนับสนุนให้ทำเต็มที่ค่ะ อย่างตอนชนะครั้งแรก หนูรู้สึกดีใจอยากทำให้ได้อีก และอยากไปให้ไกลกว่านี้ พ่อแม่ก็เข้าใจและเห็นด้วยค่ะ“

และรายการแข่งขันที่เปลี่ยนชีวิตชานเทลล์ตลอดไป คือ ดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิกในปี 2024 ซึ่งทำให้เธอได้เข้าสู่สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย โดยรายการนั้นเธอลงแข่ง ทั้ง 100 และ 200 เมตรหญิง รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี ได้สองเหรียญทอง 

“ผลที่ออกมาหนูดีใจมาก ไม่คิดเลยค่ะว่าจะได้เข้าสมาคม ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นมาก หนูเป็นคนไม่มั่นใจ และขี้อาย แต่พอมาอยู่จริงๆ ก็ได้เทคนิคใหม่ ท่าทาง เบสิค หนูปรับตัวอยู่นานมาก เพราะกลัวการเข้าสังคมมาก แต่พี่ๆ และโค้ชคอยบอกตลอด ทุกคนน่ารัก จนวันนี้หนูมีความสุข อยู่ในสมาคมมาหนึ่งปีแล้วค่ะ”

น้องคนเล็กของทีมผลัดหญิง

และอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเด็กหญิงคนนี้ ก็เกิดขึ้นที่ดูไบ สหรัฐอาหรับอเมิเรตส์ รายการ 21st Asian (U20) Athletics Championships 2024 ซึ่งสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ส่งทัพกรีฑาไทยดาวรุ่งลงแข่งหลายรายการ 

ในตอนนั้นชานเทลล์ได้โอกาสอย่างไม่ตั้งตัวในการลงแข่งวิ่งผลัด 4 × 100 เมตรหญิง เป็นไม้สุดท้าย เนื่องจากไอซ์ อธิชา เพ็ชรคุณ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้เธอต้องร่วมทีมกับนักวิ่งรุ่นพี่ ทั้งเบล จิราพัชร ขานอ่อนตา, ภัทราภรณ์ เดชานนท์ และสุวิมล สระเทียนทอง

“หนูไม่ได้เตรียมใจเลยค่ะ ต้องไปวิ่งไม้สุดท้าย ตื่นเต้นมาก ทำตัวไม่ถูก หนูชาไปหมด แต่ตอนนั้นพี่ไอซ์บาดเจ็บ ก็เหลือแค่หนู หนูก็บอกตัวเองว่าต้องทำให้ได้ พี่ๆ รออยู่ สุดท้ายได้เหรียญเงิน ดีใจมากค่ะ แต่ที่จริงแล้วหนูหวังไปถึงเหรียญทอง เพราะเป็นครั้งแรกของหนูที่ไปต่างประเทศ แต่ทุกคนก็ปลอบใจว่าทำดีที่สุดแล้ว หนูก็ดีใจค่ะ”

ไม่นานหลังจากนั้น ในการแข่งขันกีฬานักเรียนอาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม ชานเทลล์ได้ลงแข่งประเภทเดี่ยวทั้ง 100, 200 เมตร รวมไปถึงประเภททีมผลัด 4 × 100 เมตร ได้เหรียญทองแดงจากรายการนี้ ส่วนรายการเดี่ยว 100 เมตรทำสถิติใหม่ได้ที่ 12.16 วินาที

“หนูร้องไห้เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะทำได้ ดีใจมาก รู้สึกว่ามาถูกทาง รู้สึกเลยว่ากีฬาให้อะไรกับหนูมากจริงๆ หนูได้เจอคนเยอะ ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ มีประสบการณ์ใหม่ๆ จากคนที่กลัวการเข้าสังคม ก็เข้าสังคมได้เก่งขึ้น หนูเหมือนโตเป็นผู้ใหญ่ และเรียนรู้อะไรได้เยอะมาก”

และคนที่ภูมิใจกับความสำเร็จของเด็กหญิงคนนี้มากที่สุด ก็คือผู้อยู่เบื้องหลัง คือ ครอบครัว พ่อและแม่ของชานเทลล์เคยฉลองความสำเร็จให้ลูกสาว ตั้งแต่ครั้งเดินทางไปร่วมแข่งที่ดูไบ ตอนนั้นถึงกับกินเลี้ยงกันทั้งหมู่บ้าน แม้จะได้เป็นแค่ตัวสำรองในรายการนั้น แต่ก็ถือเป็นการประสบความสำเร็จครั้งสำคัญ ที่เกิดกับลูกสาวของครอบครัว“

เป้าหมาย คือ ต้องพัฒนาขึ้นอีก

21st Indonesia U18 Open Championship 2024 ก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่ชาเทลล์ได้พิสูจน์ตัวเองในการแข่งประเภทเดี่ยว 100 และ 200 เมตร โดยได้เหรียญทองจากรายการ 100 เมตร และเหรียญเงิน 200 เมตร และสามารถทำสถิติใหม่ได้ ในระยะ 200 เมตร ที่เวลา 25.28 วินาที

“รู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นอีกค่ะ เพราะหนูซ้อมหนักมาก ทั้งเช้าเย็น ทั้งการลงคอร์ท กินเวย์ เล่นเวทเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งที่หนูสู้ขนาดนี้ เพราะหนูอยากรับราชการ อยากทำให้พ่อแม่สบาย มีบ้านมีรถ”

ซึ่งหลังจากนั้นชานเทลล์ก็ยังทำผลงานได้ดีแบบต่อเนื่อง ในรายการซียูธ ที่มามาเลเซีย สองเหรียญทอง จากเดี่ยว 100 เมตร และผลัด 4 × 100 เมตร หนึ่งเหรียญทองแดง จาก 200 เมตร แต่จุดที่เธอบอกว่าประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย และเป็นช่วงเวลาที่รอคอย คือกีฬาแห่งชาติ 2024 ที่จังหวัดจันทบุรี 

“หนูรอเวลานี้มานานมากค่ะ แล้วหนูก็ทำได้แล้ว กับ 100 เมตร สถิติใหม่ 11.80 ได้เหรียญทองแดง หนูแพ้แค่พี่น่าน (ศุภานิช พูลเกิด) กับพี่เบล หนูดีใจมากๆ เพราะไม่ได้คาดหวัง หนูคิดว่าจะสู้พี่ๆ ไม่ได้ ตอนรู้ตัวว่าได้เหรียญทองแดงกับสถิติใหม่ ก็วิ่งเข้าไปกอดอาจารย์ (อ.ปัญญาพล) แกก็บอกว่า แกก็ดีใจ ภูมิใจที่หนูทำได้ และอวยพรให้หนู”

เมื่อความฝันยังดำเนินต่อไปเป้าหมาย ในอนาคตของชานเทลล์จึงเป็นฝันที่ใหญ่ขึ้น ในการติดทีมชาติซีเกมส์สักครั้ง โดยเฉพาะซีเกมส์ 2025 ในเดือนธันวาคมนี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

“เป้าหมายหนูคืออยากแข่งซีเกมส์สักครั้งก็ยังดีค่ะ หนูอยากให้ตัวเองสถิติดีขึ้น หนูชอบวิ่ง 100 เมตร หนูมีพี่น่านเป็นไอดอล เค้ามีระเบียบวินัยสูง นอนเร็ว ซ้อมมุ่งมั่นมาก พี่น่านเป็นแบบอย่างของหนู และน่ารักกับหนูมาก หนูยอมรับเขาทั้งเรื่องความสามารถ และความน่ารัก”

ปี 2024 ได้กลายเป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของเด็กหญิงจากจังหวัดสุรินทร์คนนี้ นำไปสู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2025 ต่อไป