จริยาวดี อุดมลาภ : ไบแอธลอนสายเลือดไทยกับเป้าหมายบนพื้นหิมะ

ทุกการสืบเท้าก้าวไถลไปบนพื้นหิมะ สายตาที่มุ่งมั่นทอดยาวตามเส้นทางที่ขาวโพน ลมหนาวโบกกระทบร่างก็ไม่อาจทำลายความตั้งใจของ ‘นิว-จริยาวดี อุดมลาภ’ สาวน้อยนักกีฬาไบแอธลอนทีมชาติไทยที่มุ่งหวังจะไปให้ถึงเส้นชัยที่อยู่เบื้องหน้า 

จากวันที่เด็กหญิงคนหนึ่งหลงใหลการเล่นกีฬา วันเวลาแปรเปลี่ยนให้เธอเข้าสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ฝึกฝนทักษะจากศูนย์กระทั่งกลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาไบแอธลอนดาวรุ่งที่เริ่มฉายแวว

StadiumTH มีโอกาสได้พูดคุยกับ นิว จริยาวดี สาวน้อยวัย 20 ปีที่ในเวลานี้กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อม และ เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อโอกาสสานฝันลุยโอลิมปิกฤดูหนาวให้ได้สักครั้งในชีวิต

เกิดมาเพื่อเป็น Sport Girl

คงเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเด็ก ๆ ที่จะใช้เวลายามว่างส่วนใหญ่หมดไปกับกิจกรรมสันทนาการร่วมกับผองเพื่อนรุ่นเดียวกัน เช่นกันกับนิวที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ แม้ว่าจะเป็นเด็กหญิงแต่เธอไม่เกี่ยงว่ากีฬานั้นจะเหมาะสมกับเพศใด ฟุตบอล ตะกร้อ วอลเลย์บอล หรือกีฬาประเภทลู่ นิวบอกว่าเล่นได้หมดทุกประเภท

“ชอบเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะตอนนั้นไม่มีอะไรทำ เพื่อนชวนเล่นอะไรก็ไปทั้งฟุตบอล วอลเลย์บอล วิ่ง” นิว เล่าย้อนถึงที่มาของการเป็น สปอร์ต เกิร์ล ตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัด

ด้วยความที่นิวเป็นเด็กที่ชื่นชอบในการเล่นกีฬา กระทั่งได้มีโอกาสได้ทำความคุ้นเคยกับกีฬาโรลเลอร์สกีกีฬาที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ประจวบเหมาะกับมีรุ่นพี่ที่สนิทชิดเชื้อชักชวนให้ลองเล่นไบแอธลอนนิวจึงไม่ลังเลที่จะตอบรับความท้าทายครั้งนี้

“จุดเริ่มต้นที่มาเล่นไบแอธลอน เพราะว่ามีพี่ที่เล่นสกีด้วยกันมาชวนไปเล่นตอนแรกก็ไม่สนใจ แต่พอลองเล่นลองฝึกซ้อม และ ได้ลงแข่งสนามแรกที่จังหวัดระยอง ผลงานดีได้อันดับ 4 ก็มีชื่อติดทีมชาติไทยในกีฬาครอสคันทรี” 

นิวบอกต่อว่า กีฬาไบแอธลอนนั้น สำหรับเธอแล้วไม่ใช่เรื่องยากเพราะมีพื้นฐานจากการเล่นโรลเลอร์สกีมาก่อนแล้ว สำหรับการฝึกซ้อมก็ค่อนข้างจะมีผลในด้านสภาพอากาศที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน และ ไม่มีหิมะ ทำให้ต้องไปซ้อมที่ลานโรลเลอร์สกีเป็นการทดแทน ซึ่งมันเป็นข้อจำกัดที่เธอเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะนิวตั้งใจไว้แล้วว่าจะขอทะยานไปบนพื้นหิมะด้วยกีฬาไบแอธลอน

“ก็จะมีช่วงที่ต้องไปเก็บตัวที่ต่างประเทศก็จะได้ซ้อมบนหิมะ ถ้าเราขึ้นบนสกีแล้วก็ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ว่าโรลเลอร์สกีมันจะมีล้อด้านล่างทำให้สูงกว่าสกีที่ราบขนานไปกับพื้นหิมะ ซึ่งอาจจะต้องปรับตัวสักนิดนึง”

คำตอบสุดท้ายคือไบแอธลอน

เด็กสาวที่เคยยืนปักหลักอยู่บนกระดานโรลเลอร์สกี สองมือยึดไม้ค้ำถ่อมั่น และ ยันใส่ไปกับพื้นซีเมนต์ สู่การย่ำไปบนพื้นหิมะ มีปืนยาวสะพานหลัง นิวบอกว่ามันคือความแตกต่างที่แฝงไปด้วยความท้าทาย จุดหมายคือการเล็งให้ตรงเป้าแล้วเหนี่ยวไกปืน

ไบแอธลอนเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยทั้งพละกำลังและสมาธิ รวมถึงระบบหายใจที่ต้องคอยควบคุมให้ดีเพราะจุดนี้อาจเป็นตัวตัดสินชัยชนะในการแข่งขัน กฏกติกาไม่มีอะไรซับซ้อนเพียงแค่ไถกระดานสกีให้ได้ตามรอบที่กำหนดและเมื่อถึงจุดที่ต้องเตรียมปืนประทับบ่าก็แค่ลั่นไกให้ตรงเป้า

“ความแตกต่างมันก็คือ ครอสคันทรีเป็นกีฬาสกีที่ไม่มีปืนสะพายอยู่ด้านหลัง โดยแบ่งเป็นระยะทางสปริ้นท์สั้น ๆ และระยะทางไกล ส่วนไบแอธลอนจะมีปืนสะพายด้านหลังเพื่อที่จะมายิงปืนโดยมีทั้งท่านอน และ ท่ายืน” เด็กสาวอธิบายเพิ่มเติมพร้อมกับบอกว่า ‘นี่แหละมันคือมนต์เสน่ห์ของไบแอธลอน’

“เสน่ห์ของไบแอธลอนอยู่ที่การยิงปืนในขณะที่ขี่สกีเหมือนเล่นกีฬาสองชนิดในเวลาเดียวกัน ความท้าทายอยู่ที่การยิงปืนเพราะมันมีความตื่นเต้นและท้าทาย ขนาดของปืนที่ใช้ก็แตกต่างกัน ปืนเลเซอร์ระยะยิงก็แค่ 10 เมตร แต่ถ้าเป็นปืนจริงก็จะหนักกว่าแต่ไกลกว่า เทคนิคในการยิง คือการควบคุมระบบหายใจนั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเราเหนื่อยจะทำให้ถือปืนไม่นิ่งและยิงพลาดได้ หนูจะควบคุมการหายใจให้คงที่ก่อนเข้าช่องยิง”

จากครอสคันทรีสู่การมาเป็นนักกีฬาไบแอธลอน ความท้าทายในรูปแบบใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานโรลเลอร์สกี นั่นเองที่ทำให้นิวใช้เวลาในการปรับตัวได้ไม่ยากในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว 2025 ที่ผ่านมาคือสนามใหญ่รายการแรกที่นิวลงทำการแข่งขัน แม้ว่าจะไม่มีเหรียญรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้าน แต่นั่นคือประสบการณ์อันล้ำค่าที่สาวน้อยวัย 20 ปีจะได้รับ ผลการแข่งขันไม่ใช่ประเด็นหลัก เหนือสิ่งอื่นใดคือการชนะใจตัวเอง

เป้าหมายต่อไปบนลานหิมะ

นับตั้งแต่วันแรกที่นิวได้รู้จักกับไบแอธลอน บัดนี้เธอก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 กับการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ในอ้อมกอดของสมาคมกีฬาสกีและสโนว์บอร์ดแห่งประเทศไทย ประสบการณ์ในการแข่งขัน และ การเก็บตัวฝึกซ้อมทั้งในไทย และ ต่างประเทศกำลังหล่อหลอมทักษะความสามารถให้เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น นิวบอกว่า ในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวสู่การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต 

โดยเฉพาะเทคนิคต่างๆ รวมถึงพื้นฐานที่เธอยังเข้าใจไม่ถ่องแท้ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะผลงานให้ดีในทุกการแข่งขันอย่างสุดความสามารถ

“เป้าหมายก็จะทำให้เต็มที่และทำผลงานให้กับสมาคมฯ ในอนาคตมองว่าเป้าหมายต่อไปคือโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 หนูคิดว่าจะยังคงลงแข่งในประเภทไบแอธลอนเพราะรู้สึกว่ายังสนุกกับกีฬาชนิดนี้อยู่ หนูจะตั้งใจฝึกซ้อมและมุ่งมั่นให้เต็มที่” นิวบอกอย่างแน่วแน่

เธอยังบอกด้วยว่า สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นอยู่บนเส้นทางที่เลือกคือกำลังใจจากครอบครัวที่ส่งมอบให้เธอในทุก ๆ การแข่งขัน รวมไปถึงนักกีฬาไบแอธลอนระดับโลกหลายต่อหลายคนที่เป็นต้นแบบให้เธอนำไปเป็นแบบอย่างทั้งในเรื่องการฝึกซ้อม ระเบียบวินัย และ เทคนิคยิบย่อย เหล่านี้คือกำลังใจที่ทำให้นิวพร้อมที่ตะลุยไปบนหิมะอย่างกล้าหาญ