11 กุมภาพันธ์ 2568
400 เมตร แม้จะเป็นระยะทางการวิ่งที่มีความท้าทาย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นระยะทางที่มีโอกาสมากเมื่อเทียบกับระยะอื่นๆ เนื่องจากเป็นประเภทเดียวที่มีการแข่งทั้งเดี่ยว วิ่งผลัด และ ผสม
และถือได้ว่า นักวิ่งระยะกลางไทยแท้ที่ประสบความสำเร็จแบบได้รับการยอมรับชัดเจนในระยะทางนี้มีจำนวนไม่มากนัก ทำให้ “เรียว” จิรทีปต์ บุญดี เดิมพันชีวิต และ ความฝันกับการวิ่งในเส้นทางนี้ นี่คือเรื่องราวของนักวิ่ง 400 เมตรชายไทย ที่กำลังพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเป็นตัวจริงในซีเกมส์ 2025
ค้นหาตัวเองในเส้นทางกีฬา
“ตอนนี้ผมเรียนชั้นปีที่สามอยู่ที่ราชภัฎสุราษฎร์ฯ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ครับ ผมเริ่มวิ่งตั้งแต่ชั้น ป. 1 ตอนนี้อายุ 21 ปีแล้ว ผมเริ่มวิ่งจากการที่เคยป่วยมาก่อน ไปหาหมอ และ หมอแนะนำให้ออกกำลังกาย ตอนนั้นเริ่มจากเตะบอล ยังไม่สนใจวิ่ง แค่วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกโอเค อาการป่วยดีขึ้น แต่พอไปคัดฟุตบอลแล้วไม่ติด ก็เลยลองเปลี่ยนมาวิ่ง”
หลังจากเปลี่ยนจากฟุตบอลมาวิ่ง เรียวก็หันมาวิ่งแบบเต็มตัวจนเกือบจบชั้นประถม ซึ่งจะต้องเปลี่ยนผ่านสู่ชั้นมัธยม แต่เรียวนั้นมีความคิดอยากเข้าโรงเรียนกีฬาแล้วครอบครัวไม่สนับสนุนเป็นอุปสรรคด่านแรก ที่พิสูจน์ตัวเองในฐานะนักวิ่ง
“ตอนแรกผมไม่จริงจังหรอกครับ แต่พอ ม. 1 อยากเข้าเรียนกีฬา แล้วพ่อแม่ไม่ปล่อย ก็พยายามพิสูจน์ตัวเอง จนได้แข่งในโรงเรียน แล้วได้เหรียญทอง ก็รู้สึกทั้งดีใจแล้วก็ตื่นเต้นนะครับ ผมไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน ก็รอจน ม. 3 ก็มีโอกาสได้เลือกเส้นทางการเรียนต่อด้วยตัวเอง“
เมื่อเข้าชั้นมัธยมปลาย เรียวจึงได้เข้าสู่รั้วของโรงเรียนกีฬานครศรีธรรมราช แต่การเข้าเรียนในโรงเรียนกีฬาไม่ได้ง่ายอย่างที่คาดไว้ เพราะการซ้อมจะเป็นระบบ และหนักมากขึ้น แต่ทำให้ค้นพบการวิ่งที่ถนัดมากกว่า นั่นคือประเภทระยะกลาง 400 เมตร
เริ่มต้นวิ่ง 400 เมตร
“คือช่วง ม. 4 เทอมสอง ผมได้ลงวิ่งผลัด 4 × 400 เมตร รายการระหว่างโรงเรียนกีฬาด้วยกัน และได้เหรียญทองแดง โค้ชจึงแนะนำให้เปลี่ยนระยะเป็น 400 เมตร อีกอย่างคือ 100 เมตรมีนักวิ่งเยอะแล้ว ผมแข่งสู้เขาไม่ได้ แล้วพอมาแข่ง 400 ได้เหรียญก็ดีใจมาก ตอนแรกก็ยัง 50 50 ครับ ว่าชอบไหม แต่พอซ้อมต่อไปก็เริ่มรู้สึกเข้าทาง”
เรียวเล่าว่าระหว่างเรียนที่โรงเรียนกีฬา และ ต้องเปลี่ยนระยะการซ้อมทำให้รู้สึกท้อบ่อยมาก มีช่วงที่ร้องไห้ และคิดจะออกจากโรงเรียน แต่ใจก็คิดว่าอยากสู้ต่อจนชนะ และเมื่อหาเงินได้ครั้งแรกก็ดีใจมาก ที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองด้วยอายุแค่ 16 ปี
“ผมไม่คิดว่าจะทำได้ที่หาเงินได้เองตั้งแต่ 16 ตอนนั้นพ่อแม่ก็สนับสนุนต่อ เพราะเห็นว่าเราทำได้ แต่พอ ม. 5 ก็ต้องเลิกซ้อมไปเพราะเจ็บบ่อย ท้อและหมดไฟ ก็ปล่อยยาวจนถึง ม. 6 คิดจะเลิกเล่น เลิกเรียน แต่รุ่นพี่ที่สุราษฎร์ แนะนำให้ผมไปอยู่ด้วยกัน เพื่อเป็นนักกีฬาระดับมหาลัย”
เพราะพี่ทิว วสุธา ไชยสุข (อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย) พ่อแม่ และ อาจารย์สมพล สุวรรณโชติ ซึ่งเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำ ช่วยกันพูดคุยจนทำให้เรียวตัดสินใจกลับมาวิ่งและกลับมาเรียนในระดับชั้นมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับการเปิดเทสกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน หลังจากกลับมาซ้อมได้หนึ่งสัปดาห์ เรียวจึงกลับไปเทสรายการ 400 เมตร และได้ติดทีมชาติ
กลับมาวิ่งและติดทีมชาติไทย
“ก็ดีใจนะครับ เพราะไม่ได้ซ้อมมาสองปี กลับมาซ้อมได้หนึ่งสัปดาห์พอไปลองเทสก็ติด มหาลัยก็ให้โอกาส ผมเลยคิดจะลองดู เผื่อจะเปลี่ยนชีวิตได้ แล้วผลก็เกินคาดครับ ไปแข่งได้เหรียญทอง 4 × 400 ได้ร่วมทีมกับรุ่นพี่ก็คือพี่ทิว (วสุธา) หยวก (รวมโชค เสมาทอง นักวิ่งระยะสั้นทีมชาติไทย) และมีพี่บาส (ณัฐพล ดันสูงเนิน นักวิ่งข้ามรั้วทีมชาติไทย)“
เหตุการณ์ตอนนั้นทำให้สมาคมกีฬากรีฑาฯ เริ่มจับตาดูเรียว มีการมาพูดคุยกับอาจารย์ให้ตั้งใจซ้อม และทำผลงานเพิ่ม เนื่องจากในปีนั้นจะมีกีฬามหาวิทยาลัยที่ไทย ผลปรากฏว่า เรียวพัฒนาตัวเอง จนสามารถเอาชนะใบพัน ศิริพล พันธุ์แพ (นักวิ่งระยะสั้นและระยะกลางทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญซีเกมส์หลายสมัย) แจ้งเกิดในรายการ 400 เมตรเดี่ยว คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
“ตอนนั้นก็ดีใจมากครับ ชนะรุ่นพี่ที่เป็นทีมชาติที่เราชอบ ก็คือพี่ใบพัน ตัวผมคิดเลยว่า ดีแล้วที่กลับมาวิ่ง ก็ตั้งใจซ้อมเต็มที่ เพราะตอนนั้นจะมีซีเกมส์ที่กัมพูชาพอดี สมาคมให้ผมลงมาเทสครับ แล้วก็ได้เข้ามาเก็บตัวทีมชาติตั้งแต่ตอนนั้นเลย แต่ติดไปผลัด 4 × 400 ได้เป็นตัวสำรอง แต่ตอนนั้นผมก็ดีใจมากแล้วครับ รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ได้เจอคนที่ชอบ หาเงินได้ด้วย พ่อแม่สบายใจ แถมยังได้ไปต่างประเทศครั้งแรก ตื่นเต้นมาก แต่ก็ได้เห็นว่ายังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกเยอะ และต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะเหมือนกัน”
กีฬามหาวิทยาลัยเพื่อซีเกมส์
เรียวไม่ได้น้อยใจที่เป็นได้แค่ตัวสำรองในฐานะทีมชาติครั้งแรก แต่ใช้ประสบการณ์ครั้งนั้น ผลักดันตัวเอง ฝึกซ้อมให้หนักขึ้น โดยมีเป้าหมายอยากเป็นเหมือนกับใบพัน และอยากเป็นตัวจริงในทีมชาติ จนกระทั่งกีฬามหาวิทยาลัยครั้งล่าสุดธรรมศาสตร์เกมส์ 2025 เรียวเข้าถึงช่วงพีค และไม่มีอาการบาดเจ็บ ทำผลงานได้สุดยอดเป็นนักกีฬาคนสำคัญของทีม
“ก่อนหน้านั้นเป็นกีฬาแห่งชาติครับ ร่างกายผมไม่ค่อยพร้อม บาดเจ็บ ก็เลยไม่ได้ตามเป้า ก็มาต่อที่กีฬามหาลัย ตามเป้าเลยครับ สามเหรียญทอง เหรียญแรกก็คือ 400 เดี่ยว วิ่ง 47.35 ตอนนั้นผมคิดเลย ดีใจมาก ที่ผมพยายามมาตลอดส่งผลแล้ว แล้วก็มาได้อีกสองทอง แบบไม่ได้คิดมาก่อน จาก 4 × 400 เมตรชาย และ 4 × 400 เมตรผสม แต่ผมก็คิดว่าอยากทำได้ดีกว่านี้ ต้องกลับมาซ้อมอีก หวังว่าจะเป็นตัวจริงในซีเกมส์ให้ได้”
เพราะซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพถือว่ามีความสำคัญ ที่จะได้ลงแข่งขันในฐานะตัวจริงต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศ และมีโอกาสที่คนในครอบครัวจะได้เดินทางมาชมด้วยตัวเอง เรียวจึงบอกว่าจะฝึกฝนตัวเองให้หนักขึ้น เก่งขึ้นกว่านี้ เพื่อจะเป็นตัวจริงให้ได้
“ถ้าบอกอะไรกับตัวเองได้ ผมคงขอบคุณที่พยายามจนผ่านจุดที่ท้อมาได้ และผลที่ออกมาก็คุ้มค่า พ่อแม่ก็คือแรงผลักดันของผม อยากตอบแทนเขาให้มากกว่านี้ รวมถึงทุกคนที่อยู่เบื้องหลัง ที่ให้กำลังใจผมตลอด พี่ทิวที่บอกผมเสมอว่าผมยังไปต่อได้ และอาจารย์สมพลที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ และขอบคุณทุกคนทุกเสียงเชียร์ ทุกกำลังใจ ที่ทำให้ผมอยากพัฒนาตัวเองต่อให้ดีขึ้นกว่าเดิม และจะไม่หยุดวิ่งอย่างแน่นอน”
TAG ที่เกี่ยวข้อง