5 กุมภาพันธ์ 2568
นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2025 สิ่งที่คนไทยไม่อยากเจอมากที่สุด และมันกลับมาอีกครั้ง นั่นก็คือ “ฝุ่นละออง PM 2.5” ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เล่นกีฬากลางแจ้งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และ ต้องตัดสินใจหยุดชั่วคราว
แม้ปัญหาเรื่องฝุ่น จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น Stadium TH ขอสรุปประเด็นเรื่องฝุ่น PM 2.5 อีกครั้ง พร้อมวิธีป้องกันฉบับเข้าใจง่าย ทำตามได้ทุกคน
ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร?
ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นละลองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน มีขนาดเล็กประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผม แม้จะเล็กจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ และ ฝุ่นมากมาย ทำให้เวลามองไปรอบๆตัวเรา จะเห็นตึกจางๆ ที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นหมอก
PM 2.5 จัดอยู่ในฝุ่นที่อันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก สามารถกระจายอยู่ในอากาศ และ อยู่ได้นานกว่าฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ที่น่ากลัวกว่านั้น ฝุ่นชนิดนี้ อยู่ได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตร
แล้วฝุ่น PM 2.5 เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สาเหตุของฝุ่น PM 2.5 เกิดขึ้นได้หลากหลายปัจจัย และข้อเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ที่อันตรายต่อสุขภาพมนุษย์เป็นอย่างมาก
- การเผาป่า และ ไฟป่า
ไฟป่านั้นเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ ทั้งเกิดจากฟ้าผ่า การเสียดสีกันของไม้ หรือ ปฏิกิริยาเคมีจากแสงแดดในพื้นที่แห้ง โดยเฉพาะ การเผาป่าโดยมนุษย์ ยิ่งทำให้เกิดควันไฟ หมอก ก๊าซพิษ รวมถึงฝุ่น PM 2.5
- มลพิษต่างๆ
ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ที่ใช้เชื้อเพลิงไม่สะอาด บวกกับการจราจรที่ติดขัด ทำให้เกิดควันดำที่มีสารก่อให้เกิดมะเร็ง และฝุ่นละออง PM 2.5
- อุตสาหกรรม การก่อสร้าง
ฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง ทั้งการขุดเจาะ การขนส่งวัสดุก่อสร้าง การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ถ่านหินต่างๆ ที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการกระจายตัวของฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก
- การเกษตร
การเผาอ้อย เผาไร่ข้าวโพดนาข้าว ไร่หมุนเวียน เป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก และ ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5
ค่า AQI สำคัญแค่ไหน?
AQI มีชื่อภาษาอังกฤษว่า (Air Quality Index) แปลเป็นไทยคือ ตัวเลขที่บ่งบอกถึงคุณภาพของอากาศในเวลานั้น การแบ่งระดับค่า AQI มีดังนี้
0-25 (ดีมาก)
คุณภาพอากาศดีมาก สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง เที่ยวได้ตามปกติ
26-50 (ดี)
คุณภาพอากาศดี สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง เที่ยวได้ตามปกติ
51-100 (กลาง)
สำหรับคนทั่วไป สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่มีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคือง ควรลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
101-200 (มีผลกระทบต่อสุขภาพ)
สำหรับคนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคือง ควรลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเอง
ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเอง หากใครมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ตาอักเสบ หัวใจเต้นผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
201 ขึ้นไป (มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก)
ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมการแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองร่วมด้วย หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
ผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ถึงคนรักการออกกำลังกาย
แม้จะเป็นฝุ่นที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ความอันตรายนั้นใหญ่มหาศาล โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบการเล่นกีฬาต่างๆ ในพื้นที่กลางแจ้ง หากคุณสูดหายใจเข้าไปแล้ว จะพบกับผลเสียดังนี้
- ระบบหายใจ
มีโอกาสทำให้เกิดการระคายเคือง แสบจมูก หายใจลำบาก หอบหืด ฝุ่น PM 2.5 ยังกระตุ้นอาการโรคภูมิแพ้ โรคถุงลมโป่งพอง และทำให้การทำงานของปอดเสื่อมลง
- ระบบผิวหนัง
ฝุ่น PM 2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวหนังของมนุษย์ได้ ทำให้เกิดการคัน ปวดแสบทั้งตัว มีการระคายเคืองผิวหนัง จนก่อให้เกิดสิวที่ใบหน้า
- ดวงตา
หากดวงตา โดยเฉพาะส่วนเยื่อบุตา โดนฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่ตา ทั้งตาแดง ตาแห้ง หรืออาจส่งผลกระทบระยะยาว ถึง จอประสาทตาผิดปกติได้
วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในสไตล์คนรักสุขภาพ
ต่อให้ฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลถึงคนรักสุขภาพขนาดไหน แต่หากรู้จักป้องกันตัวเองอย่างถูกวิธี เราก็ยังคงสามารถออกกำลังกาย เล่นกีฬาต่างๆ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- สวมหน้ากากอนามัย
ไม่ลืมที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อออกเดินทางไปนอกบ้าน หรือ สถานที่ต่างๆ ปิดทั้งจมูก และ ปาก ควรเปลี่ยนหน้ากากทุก 4-6 ชั่วโมง
- ติดตั้งอุปกรณ์ลดฝุ่น
ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน เพื่อลดการกระจายตัวเข้ามาของฝุ่นภายในบ้าน ไม่ลืมที่จะล้างแผ่นกรองเป็นประจำ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
- งดกิจกรรมกลางแจ้ง
เปลี่ยนการเล่นกีฬาจากกลางแจ้ง ไปเป็นในร่มแทน เพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น วิ่งบนลู่, แบดมินตัน, โยคะ และ พิลาทิส เป็นต้น
- ไม่ตากผ้าในพื้นที่โล่ง
หลีกเลี่ยงการตากผ้าในที่โล่งแจ้ง เพราะการตากผ้าในที่โล่ง มีโอกาสที่ฝุ่นจะเกาะติดเสื้อผ้ามากขึ้น ควรตากผ้าในที่ที่มีหลังคา ในอาคารหรือใช้เครื่องอบผ้า จะช่วยได้เยอะ
TAG ที่เกี่ยวข้อง