“พี พีระพัฒน์“ ดาวรุ่งมาราธอนไทย และเป้าหมายซีเกมส์ 2025

ซีเกมส์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2025 ได้กลายเป็นเป้าหมายของนักวิ่งถนนทั่วประเทศไทย ที่อยากจะเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาครั้งสำคัญของภูมิภาคอาเซียน

นั่นเป็นเป้าหมายเดียวกันกับ พี พีระพัฒน์ มานพ นักวิ่งมาราธอนดาวรุ่งจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ทำให้ในปี 2024 พีสร้างผลงานการวิ่งมาราธอน และประสบความสำเร็จมากมาย นี่คือเรื่องราวความฝัน ความหวัง และ เป้าหมายของนักวิ่งหนุ่มวัย 22 ปี

จุดเริ่มต้นการวิ่ง

พีเล่าว่า ที่จริงแล้วจุดเริ่มต้นในการวิ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ชั้น ม.ต้น “ตอนประถมผมเป็นนักวิ่งในลู่อยู่แล้ว เคยแข่งกีฬาจังหวัด แล้วได้เจอกับโค้ชชู (บุญชู จันทร์เดชะ อดีตนักวิ่งเจ้าของเหรียญทองมาราธอนซีเกมส์) สมัยวิ่ง 100 เมตร โค้ชเลยชวนให้ไปซ้อมด้วย ทำให้ได้เป็นแชมป์จังหวัด ก็เปลี่ยนมาวิ่ง 800 เมตร จนได้ไปถึงระดับเยาวชนแห่งชาติหนึ่งครั้ง ได้เหรียญทองแดงจากการแข่ง 3 × 800 เมตร ซึ่งปีนั้นชุมพรเป็นเจ้าภาพ”

ในตอนนั้นโค้ชชู เริ่มทำทีมพัฒนาเยาวชนในจังหวัดชุมพร มีความรู้จักส่วนตัวกับคุณพ่อของพี เนื่องจากคุณพ่อเป็นครูพละศึกษา “ตอนแรกผมไม่รู้จักโค้ชครับ แต่คุณพ่อรู้จัก ก็เลยให้ไปอยู่กับโค้ช ไปกินไปนอนกับโค้ช ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้เลยว่าชอบการวิ่งจริงไหม แต่โค้ชพาไปแข่ง พอได้รางวัลก็มีกำลังใจ แล้วก็ค่อยๆ ชอบการวิ่งมากขึ้น ตอนนั้นก็แข่งกันในโซนภาคใต้”

แต่ช่วงเปลี่ยนผ่านอนาคต พีที่กำลังไปได้ดีกับการวิ่ง ต้องเจอจุดเปลี่ยนสำคัญให้พลิกผัน เนื่องจากตอนขึ้นชั้น ม.4 ต้องไปเตรียมสอบเป็นนายร้อย ทำให้ไม่ได้วิ่งนานหนึ่งปี แต่สุดท้ายเมื่อขึ้นชั้นปีที่หนึ่ง ก็ได้กลับมาซ้อมใหม่ และกลับไปเจอกับโค้ชชูอีกครั้ง

“คือตอนที่หายไปแล้วไม่ได้วิ่ง สุดท้ายกลับมาใหม่ เป็นเพราะทุกคนเข้าใจและติดภาพลักษณ์ว่าผมเป็นนักวิ่งอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีกิจกรรมการวิ่งก็จะได้ที่หนึ่ง ตอนนั้นกลับมาวิ่งเพราะโรงเรียนส่งผมไปแข่งกีฬากองทัพไทย ตอนเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ก็เลยปรึกษากับโค้ชชู และได้ตารางซ้อมมา เพื่อแข่ง 800 เมตร หลังจากนั้นก็ติดต่อกันตลอด ส่งโปรแกรมให้เรื่อยๆ”

เปิดตัวในการวิ่งมาราธอน 

ในช่วงแข่งขันทางภาคใต้กับโค้ชชู พีได้ลงสนามทางไกลระยะ 10 กิโลเมตรมาก่อนแล้ว จนกระทั่งเข้าเรียนจปร. ก็เริ่มวิ่ง 10 กิโลเมตรทางถนนแบบเต็มตัว จนขึ้นชั้นปีที่ 2 ต้องลงแข่งกีฬาสีเหล่าทัพของโรงเรียนนายร้อย ทำให้เริ่มมีการตั้งเป้าเรื่องสถิติเข้ามา

“ผมต้องแข่งกีฬาสีเหล่าทัพ ของโรงเรียนนายร้อยครับ เป้าหมายคือทำลายสถิติกีฬาเหล่าทัพ 5000 เมตร แต่พลาดไป 6 วินาที แต่ก็ได้เหรียญทอง แล้วก็หยุดจัดไปหลายปี จะมีแข่งอีกทีปีหน้า ผมก็ยังมีเป้าหมายเดิม”

จปร. ได้เปิดเส้นทางสู่ความจริงจังในการวิ่งทางไกลกับพี ผ่านงานเขาชะโงก ซูเปอร์ฮาล์ฟ ระยะ 33 กิโล 

“ตอนนั้นในชมรม (ชมรมวิ่งของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) บอกว่า มีรุ่นพี่ที่เคยได้ถ้วยโอเวอร์ออลระยะนี้ ให้ผมป้องกันแชมป์ ตอนนั้นยังไม่เคยวิ่งฮาล์ฟ (21 กิโลเมตร) มาก่อน ก็ตั้งใจซ้อม ออกทางไกล เพราะมั่นใจ สุดท้ายก็ชนะเลิศจริงๆ ปีนั้นคือปี 2022“

ซึ่งการแข่งที่เขาชะโงกปีนั้น ทำให้พีกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้งในปี 2023 และ 2024 จนมีการทำลายสถิติตัวเองได้ เพิ่มความมั่นใจ ให้กับสนามต่อไปจนประสบความสำเร็จ ในกรุงเทพมาราธอน

“กรุงเทพมาราธอนที่จริงเป็นมาราธอนที่สองของผมนะ วิ่งเข้าอันดับที่สองคนไทย สถิติ 2.38 ชั่วโมง ส่วนมาราธอนแรก คือ บังเอิญเนวี่มาราธอน จัดตรงกับวันเกิดผมพอดี ก็เลยไป เพราะอยากวิ่งมาราธอนในวันเกิดตัวเอง แต่สถิติไม่ดี 2.51 ชั่วโมงครับ“

สร้างชื่อเสียงในปี 2024

พีบอกว่าการแข่งมาราธอนแตกต่างจาก 5 กิโลเมตร หรือ 10 กิโลเมตร ตรงที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเป็นหลัก หากซ้อมมาดีโอกาสชนะก็จะมีสูง

ปลายปี 2024 พีได้ขึ้นโพเดียมการแข่งขันมาราธอนหลายสนามติดต่อกัน เพิ่มความมั่นใจให้กับนักวิ่งวัย 22 ปีคนนี้ โดยช่วงเดือนพฤศจิกายนคาบเกี่ยวเดือนธันวาคม พี สร้างชื่อให้กับตัวเองจากบางแสน 42 ต่อด้วยเขาชะโงก 33 กรุงเทพมาราธอน อะเมซซิ่งไทยแลนด์มาราธอน 

จนรายการปิดท้ายปี 2024 พีสามารถคว้าเหรียญเงิน ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งแรกในชีวิตได้สำเร็จ ในระยะฮาล์ฟมาราธอน ที่จังหวัดจันทบุรี ปูทางความฝันสู่การติดทีมชาติในอนาคต 

”เป้าหมายในการวิ่งของผมก็คืออยากติดทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2025 ครับ ตอนนี้ผมพักก่อน เพื่อรอไปฝึกภาคสนามกับโรงเรียน แล้วจะรีบกลับมาเก็บระยะเพื่อไปคัดซีเกมส์กลางปี ผมคิดว่าสำหรับมาราธอน 

ผมยังไปได้มากกว่านี้ ทำได้ดีกว่านี้ และยังไม่สุด ปีนี้ผมได้ไปเบอร์ลินมาราธอน ก็อยากจะวิ่งต่ำกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที ให้ได้ ก็จะเป็นสนามก่อนซีเกมส์ เพราะจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน“

ผู้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จ

พีบอกว่าการแข่งมาราธอนแตกต่างจาก 5 กิโลหรือ 10 กิโลเมตร ตรงที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเป็นหลัก หากซ้อมมาดีโอกาสชนะก็จะมีสูง ซึ่งภายใต้คำแนะนำของโค้ชชู ซึ่งมีประสบการณ์สูงอยู่แล้ว มีการปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้เหมาะสมกับพีอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการเรียน ควบคู่กับการซ้อม

“โค้ชจะบอกว่าดีใจตลอดที่เราทำได้ และโค้ชไม่เคยพาใครไปได้ไกลถึงซีเกมส์มาก่อน ผมก็แอบคิดว่าถ้าผมเป็นคนแรกได้ก็คงจะดี” 

ส่วนพ่อกับแม่ก็สนับสนุนผมให้ทำเต็มที่ทุกเรื่อง ซึ่งกีฬาแห่งชาติครั้งที่ผ่านมา พีได้วิ่งในนามจังหวัดชุมพร พ่อกับแม่จึงเดินทางมาด้วย และสุดท้ายความสำเร็จของลูกชาย ในการคว้าเหรียญเงินมาครองได้ ก็คือความภาคภูมิใจของทุกคนในครอบครัว

“ผมไม่ได้วิ่งให้ชุมพร ครั้งนี้ครั้งแรก ก็เลยอยากให้พ่อแม่มาด้วย ตอนแรกเค้าก็ไม่เชื่อว่าเราจะทำได้ เพราะเป็นครั้งแรกของผม ไม่เคยลงแข่งงานที่เป็นทางการขนาดนี้ เค้าก็ดีใจภูมิใจ และเป็นเหรียญเดียวของกรีฑาชุมพรด้วยครับ”

ปี 2025 เส้นทางมาราธอนทุกสนามจะมุ่งสู่การเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในซีเกมส์ และพีคือหนึ่งในผู้ที่ต้องการท้าทาย สิทธิ์การเป็นนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย ซึ่งพียืนยันถึงเป้าหมายนี้ว่าขอให้ทุกคนติดตามติดตามกันต่อไป ในการพิชิตเป้าหมายให้สำเร็จ