stadium

‘ส้ม’ สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ กับความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า

23 ธันวาคม 2567

วงการแบดมินตันไทยกำลังสร้างผลงานในเวทีระดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับเวิลด์ ทัวร์ หรือการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมานับได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ชื่อของ ‘ส้ม-สรัลรักษ์ วิทิตศานต์’ สาวน้อยวัย 18 ปี เป็นอีกหนึ่งนักแบดมินตันที่น่าจับตามอง ด้วยผลงานการคว้าเหรียญทองแดงจากศึกเยาวชนโลก 2024 ที่ผ่านมา และที่สำคัญไปกว่านั้น เธอกำลังจะเทิร์นโปรเพื่อก้าวไปสู่ระดับโลก

 

StadiumTH จะขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับสาวน้อยคนนี้ให้มากขึ้นในมุมมองของการใช้ชีวิตและเป้าหมายในอนาคต รวมไปถึงวิธีการเจริญรอยตาม ‘วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์’ พี่ชายแท้ ๆ ตามสายเลือดว่าเธอกำหนดเส้นทางไว้อย่างไร

 

 

แรงกดดันที่ทับถม

 

ในช่วงที่ วิว กุลวุฒิ คว้าแชมป์เยาวชนโลกมาครองได้ 3 สมัยซ้อน สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับแวดวงลูกขนไก่ทั้งในไทยและต่างประเทศไม่น้อย ซึ่งหลังจากนั้นยังไม่มีใครสามารถทำได้อีกเลย กระทั่งการมาถึงของ ส้ม สรัลรักษ์ น้องสาวแท้ ๆ ของวิวทำให้แฟนแบดมินตันไทยแอบมีลุ้นว่าเธอจะสามารถเดินตามรอยเท้าพี่ชายแล้วประสบความสำเร็จในระดับเยาวชนได้

 

อย่างไรก็ตาม ส้มไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์เฉกเช่นเดียวกันได้ เพราะการเข้าร่วมการแข่งขันในระดับเยาวชนโลกทั้ง 3 ครั้ง เธอได้มาเพียง 1 เหรียญทองแดง จึงหลีกไม่พ้นที่จะถูกตั้งคำถามถึงความสำเร็จที่เธอได้รับในฐานะน้องสาวของแชมป์โลก

 

“ในการแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์โลกครั้งแรกคือทัวร์นาเมนต์ที่หนูรู้สึกตื่นเต้นและกดดันที่สุด ซึ่งมันเป็นช่วงที่หนูยังมีความคิดแบบเดิมอยู่ คือเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่วิวว่าจะต้องทำให้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าทำผลงานออกมาไม่ดี แต่ความผิดพลาดครั้งนั้นทำให้หนูได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก มันเป็นประสบการณ์การแข่งขันที่ทำให้หนูรู้ถึงจุดบกพร่องของตัวเองและต้องมีการเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้ ต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเดิมและโฟกัสไปที่การแข่งขัน เพราะครั้งแรกนั้นหนูไม่สนใจอะไรเลยหวังแค่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

 

ส้มเปิดใจต่อไปว่า ไม่ใช่เพียงเรื่องของการเปรียบเทียบที่ทำให้เธอรู้สึกกดดัน แต่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนต่อเนื่อง แม้ว่าจะพักรักษาตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทก็ไม่มีทีท่าจะหายเป็นปกติ

 

“ช่วงนั้นหนูรู้สึกว่าไม่สนุกกับกีฬาแบดมินตันอีกแล้ว ถึงขนาดที่ว่าจะเลิกเล่นไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเหตุผลหลักคือปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน หนูรักษาตัวอยู่ประมาณหนึ่งเดือนแต่ก็ไม่ดีขึ้นจึงอยากที่จะเลิกเล่น ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่ได้อยากเล่นแบดฯ มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เพียงแต่ว่าเวลาพี่ชายไปสนามแบดฯ หนูที่ตามไปด้วยก็ไม่รู้จะทำอะไรพ่อก็เลยจับมาฝึกซะเลย”

 

แต่ทว่า เมื่อแพทย์วินิจฉัยเพื่อทำการรักษาและได้รับคำแนะนำในการทำกายภาพบำบัดแบบต่อเนื่อง ส่งผลให้อาการบาดเจ็บที่รบกวนมาโดยตลอดหายเป็นปกติ ผนวกกับเธอได้เปลี่ยนมุมมองความคิดจึงเป็นเหตุผลให้ส้มกลับมามีพลังในเส้นทางแบดมินตันอีกครั้ง

 

 

คำแนะนำจาก ‘วิว’ ที่ส่งผลในเชิงบวก

 

ในช่วงวัยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะย่อมส่งผลกระทบต่อความคิด การตัดสินใจและการกระทำ จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนช่วงวัยดังกล่าวต้องได้รับคำแนะนำ ส้มโชคดีที่มีพี่ชายอย่างวิวคอยให้คำปรึกษาและเป็นเสมือนพลังใจที่ทำให้เธอเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด

 

“ทุกคำแนะนำที่พี่วิวบอกกับหนู มันคือแรงผลักดันที่ทำให้เราต้องออกไปเรียนรู้ ออกไปหาประสบการณ์ หนูค่อนข้างเป็นคนที่เซนซิทีฟกับคนในครอบครัว แล้วยิ่งเป็นคำพูดจากพี่ชายมันก็ยิ่งทำให้หนูมีกำลังใจมากขึ้น ต้องการที่จะพัฒนาตัวเองไม่เล่นเพื่อที่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อก่อนนี้หนูเป็นคนที่เวลาลงแข่งขันจะสนใจแค่ผลแพ้ชนะแค่นั้น ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดและวิธีการเล่นของตัวเองเลย แต่เมื่อได้รับคำแนะนำจากพี่วิว ก็รู้สึกว่าสิ่งที่พี่ชายได้บอกมานั้นมันเป็นสิ่งที่ต้องทำและควรทำมาตั้งนานแล้ว”

 

ส้ม ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงที่คิดจะเลิกเล่นมันคือมรสุมชีวิตที่เข้ามารุมเร้าทั้งอาการบาดเจ็บ แรงกดดันที่กังวลว่าจะทำไม่ได้เหมือนพี่ชาย มันเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมความคิดในหัวว่าควรไปต่อหรือหยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่เมื่อได้รับคำแนะนำจากคนในครอบครัว บวกกับกำลังใจที่ถูกส่งต่อ ทำให้ส้มปรับเปลี่ยนความคิดเชิงลบให้เป็นแรงผลักดันและพร้อมที่จะก้าวไปยังเส้นทางของตัวเองต่อไป

 

“แพ้ชนะมันก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักกีฬา แต่ถ้าเราไปโฟกัสกับเรื่องนั้นมากเกินไปมันก็จะอึดอัดและทำผลงานออกมาได้ไม่ดี พอเราได้คำแนะนำทั้งจากพี่ชายและคนในครอบครัว ก็เลยเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ จริง ๆ แล้วหนูเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับชีวิต บางครั้งเราอาจจะต้องผ่อนคลายบ้างทั้งในและนอกสนาม เพื่อลดความกดดันในตัวเอง โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีนั่งสมาธิเพื่อให้มีสติอยู่กับตัวเอง” ส้มบอกและเล่าต่อว่า ...

 

... ในการแข่งล่าสุดที่ไปได้เหรียญทองแดงกลับมา หนูก็ทักไปปรึกษาพี่วิวอยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของรูปเกมและการตี ซึ่งพี่วิวจะคอยให้คำแนะนำตลอดพร้อมกับคอยเตือนว่าเราพลาดตรงจุดไหนและคอยให้กำลังใจ หนูไม่รู้สึกว่ากดดันหวังแค่ว่าลงไปแล้วทำให้เต็มที่แต่ก็แอบหวังลึก ๆ ว่าต้องได้เหรียญทอง แต่ถึงแม้ว่าจะทำไม่ได้หนูก็ไม่รู้สึกเสียดายตรงนั้น เพราะจะโฟกัสไปข้างหน้าและเก็บสิ่งที่ผิดพลาดมาแก้ไขเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป”

 

จะเห็นได้ว่าอิทธิพลทางความคิดของคนในครอบครัวนั้น ส่งผลทำให้ส้มสามารถกลับมาโลดแล่นในวงการลูกขนไก่ได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง 

 

 

เตรียมเทิร์นโปรสู่มืออาชีพ

 

ประสบการณ์ที่ส้มสั่งสมมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเยาวชน ถึงตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้นที่สูงกว่า เส้นทางต่อจากนี้คือเครื่องมือที่จะพิสูจน์ว่าเธอจะก้าวไปยืนเทียบเคียงความสำเร็จกับบรรดานักกีฬารุ่นพี่ในทีมชาติเพื่ออวดสายตาในระดับโลกพร้อมกับสร้างผลงานให้กับประเทศได้มากน้อยเพียงใด

 

“หนูรู้สึกว่าประสบการณ์ในระดับเยาวชนสามารถต่อยอดไปสู่ระดับโปรขึ้นได้ แต่ต้องศึกษาเกมเยอะ ๆ ซ้อมก็ต้องให้หนักขึ้นร่วมถึงสภาพร่างกายก็ต้องให้แข็งแรง ในตอนนี้ก็ต้องรักษาอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายให้ดีขึ้นเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ต้องมาเทรนนิ่งร่างกายและซ้อมการตีลูกให้เร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาดตัวเองให้น้อยลงซึ่งมันเป็นจุดที่หนูต้องพัฒนา”

 

ส้มบอกอีกว่า เป้าหมายต่อไปที่เธอปักธงไว้คือต้องทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อหวังจะติดอันดับ 150 ของโลกให้ได้ภายในปี 2025 ระหว่างทางจะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด ในแง่ของถ้วยรางวัลเธอยังมองว่าเป็นเรื่องที่รองลงมา

 

“จริง ๆ โอลิมปิกก็เป็นเป้าหมายหลักสำหรับนักกีฬาทุกคน เพียงแต่ว่าตอนนี้หนูต้องพยายามไต่ระดับเพื่อทำอันดับไปเรื่อย ๆ ก่อน ซึ่งคาดหวังไว้ว่าภายในปีหน้าจะต้องติดอันดับ 200-150 ของโลกให้ได้เสียก่อน ที่เหลือก็ไม่ได้หวังถึงแชมป์แค่เก็บประสบการณ์ให้ได้เยอะที่สุด สมมติว่าทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ขอติดท็อป 10 ของโลกให้ได้”

 

ส้มทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวินัยในการฝึกซ้อม จึงต้องการส่งต่อแนวทางนี้ให้กับเยาวชนหรือแม้แต่ผู้ที่สนใจในกีฬาจำต้องปฏิบัติให้เป็นนิสัย นอกจากนี้ความมั่นใจก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมายนั่นคือความสำเร็จในอนาคต


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

โฆษณา