stadium

สุดยอดนักกีฬาไทย ประจำปี 2024

19 ธันวาคม 2567

ปี 2024 เป็นอีกปีที่น่าจดจำสำหรับนักกีฬาไทยอย่างแท้จริง หลังสร้างความสุข สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย 

Stadium TH ได้เลือกสุดยอดนักกีฬาไทย ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ประจำปี 2024 จะมีใครกันบ้าง มาเช็คชื่อไปพร้อมๆกัน 
 


พงศกร แปยอ (วีลแชร์เรซซิ่ง)


พาย้อนกลับไปมหกรรมพาราลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส มากันที่การแข่งขันวีลแชร์เรซซิ่ง พงศกร แปยอ เจ้าของ 3 เหรียญทองพาราลิมปิก 2020 ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคว้า 1 เหรียญทองจากวีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย (คลาส T53) และอีก 2 เหรียญเงินจาก 100 เมตรชาย (คลาส T53) กับ 800 เมตรชาย (คลาส T53)

ความสุดยอดของ "กร" ไม่หมดแค่นี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เขาเหมาคนเดียว 3 เหรียญทอง ในกรีฑาคนพิการนานาชาติ ชาร์จาห์ 2024 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากวีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตรชาย (คลาส T53), 400 เมตรชาย (คลาส T53) และ 800 เมตรชาย (คลาส T53)
 


กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน)

ถือเป็นปีทองของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ อย่างแท้จริง หลังคว้าแชมป์มาได้ 1 รายการ จากแบดมินตัน โคเรีย มาสเตอร์ส 2024 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ที่ประเทศเกาหลีใต้ กับรองแชมป์ 1 รายการ จากแบดมินตัน เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 750 "โยเน็กซ์ เฟรนช์ โอเพ่น 2024" ที่ประเทศฝรั่งเศส
 

และทัวร์นาเมนต์ที่สร้างชื่อให้กับ “วิว” อย่างเต็มตัว คงหนีไม่พ้น โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มจากไล่ต้อน เคนตะ นิชิโมโตะ จากญี่ปุ่น รอบ 16 คน ต่อด้วยชนะ ฉี ยู่ ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน รอบก่อนรองชนะเลิศ จากนั้นมาโค่น ลี่ ซี เจี๋ย จากมาเลเซีย ในรอบรองชนะเลิศ 2 เกมรวด 

ส่วนรอบชิงชนะเลิศ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ใส่หมดหน้าตัก สู้ได้อย่างเต็มที่แล้ว ก่อนแพ้ วิคเตอร์ อเซลเซ่น แชมป์เก่าจากเดนมาร์ก 0-2 เกม 11-21 และ 11-21 คว้าเหรียญเงินแบดมินตันชายเดี่ยวมาครอง พร้อมสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญแรกของกีฬาแบดมินตัน นับตั้งแต่บรรจุให้มีการแข่งขันครั้งแรกในปี 1992

 


วีรพล วิชุมา (ยกน้ำหนัก)

ก่อนมหกรรมโอลิมปิก 2024 จะเริ่มขึ้น ทางสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย แสดงความเชื่อมั่นว่า จะสามารถคว้าเหรียญรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ โดยชื่อของ “เวฟ” วีรพล วิชุมา ที่มีดีกรี 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน จากศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2566 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ถูกยกให้เป็นนักกีฬาน่าจับตามองใน ปารีสเกมส์ ครั้งนี้

และ “เวฟ” จอมพลังรุ่น 73 กิโลกรัมชาย ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ลงแข่งขันโอลิมปิก 2024 โดยยกท่าสแนตช์ได้ 148 กิโลกรัม และท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 198 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 346 กิโลกรัม จบอันดับที่ 2 คว้าเหรียญเงินมาครองได้แบบสะใจ 
 


ธีรพงศ์ ศิลาชัย (ยกน้ำหนัก)

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย คว้ามา 1 เหรียญเงินจากยกน้ำหนัก 2024 ไอดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ คัพ รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จังหวัดภูเก็ต 

ก่อนจะปล่อยพลังความเก่งออกมาอย่างต่อเนื่องใน โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส โดยจอมพลังไทยวัย 21 ปีจากจังหวัดศรีสะเกษ รุ่น 61 กิโลกรัมชาย ยกท่าสแนตช์ได้ 132 กิโลกรัม และ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 171 กิโลกรัม ทำน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 303 กิโลกรัม จบอันดับ 2 คว้าเหรียญเงินให้กับทัพนักกีฬาไทยได้ในที่สุด
 


สมเกียรติ จันทรา (จักรยานยนต์ทางเรียบ)

 

ปี 2025 จะเป็นฤดูกาลแรกของ สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ จากทีมฮอนด้าที่ได้ลงแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกระดับสูงสุด “โมโตจีพี” 

"ก้อง" ลงแข่งรุ่น “โมโตทู” ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปีนี้ คว้าแชมป์ได้ทั้งหมด 2 รายการ ได้แก่ "อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022" ที่ประเทศอินโดนีเซีย และ “เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ 2023” ที่ญี่ปุ่น 

ผลงานดีที่สุดในปีนี้ คือการจบอันดับที่ 4 รุ่นโมโตทู รายการ “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” สนาม 18 จังหวัดบุรีรัมย์
 

 

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด)
 

ปิดฉากอาชีพครั้งสุดท้ายได้อย่างสวยงามสำหรับ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เก่า และ มืออันดับ 1 ของโลก ลงแข่งขันเทควันโด โอลิมปิก 2024 รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง รอบชิงชนะเลิศ พบกับ กั๋ว ชิง มือวางอันดับ 6 ของรายการจากจีน

เปิดฉากยกแรก “เทนนิส” เอาชนะไปได้ก่อน 6-3 แต่ยกที่สอง เป็นคู่แข่งจากจีนเอาชนะไป 3-2 ทำให้เสมอกัน 1-1 ยก ต้องตัดสินหาผู้ชนะยกสุดท้าย 

 

และเป็น พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดออกมา เอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 6-2 ทำให้ชนะไป 2-1 ยก คว้าเหรียญทองมาครอง พร้อมเป็นนักกีฬาไทยคนแรก ที่สามารถคว้าเหรียญทอง 2 ครั้งติดต่อกัน (2020, 2024) และเป็นนักกีฬาที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 3 สมัยซ้อน (2016, 2020 และ 2024) อำลาวงการได้อย่างสมบูรณ์แบบ
 


สายสุนีย์ จ๊ะนะ (วีลแชร์ฟันดาบ)

สมกับเป็นราชินีฟันดาบเบอร์ 1 ของโลกอย่างแท้จริง สายสุนีย์ จ๊ะนะ ที่สร้างประวัติศาสตร์ใน “พาราลิมปิก 2024” เป็นนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบคนแรกของโลก ที่คว้าเหรียญทองพาราลิมปิก ครบทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ ฟอยล์, เซเบอร์ และ เอเป้ 

สายสุนีย์ เข้าร่วมมหกรรมพาราลิมปิก ทั้งหมด 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2004-2024 รวมระยะทางยาวกว่า 20 ปี บนเส้นทางอาชีพ คว้าเหรียญทองไปทั้งสิ้น 5 เหรียญ, 1 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง เรียกได้ว่าเธอคือสุดยอดนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน
 


จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล)

จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง คือ นักมวยหญิงไทยคนแรก และ คนเดียวที่คว้าเหรียญโอลิมปิกใน “ปารีส 2024”

“บี” เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก 2024 ครั้งนี้เป็นครั้งแรก และสร้างผลงานให้กับตัวเองได้อย่างสุดประทับใจ หลังคว้าเหรียญทองแดงจากมวยสากล รุ่นน้ำหนัก 66 กิโลกรัมหญิง โดยรอบรองชนะเลิศ เธอต้องพบกับคู่แข่งตัวเก่งอย่าง อิมาน เคลิฟ จากแอลจีเรีย 

แม้ จันทร์แจ่ม จะพยายามหาจังหวะเข้าชก แต่สู้ความยาว ความหนักของ เคลิฟ ไม่ไหว แพ้ไปด้วยคะแนน 0-5 คว้าเหรียญทองแดงไปครอง และเป็นเหรียญเดียวของกีฬามวยในโอลิมปิก 2024
 


สุรจนา คําเบ้า (ยกน้ำหนัก)

“เวฟ” วีรพล วิชุมา กับ “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย เป็นฝั่งชายที่คว้าเหรียญเงินยกน้ำหนักโอลิมปิก 2024

ข้ามมาที่ฝั่งผู้หญิงกันบ้าง สุรจนา คำเบ้า ฟอร์มแรงไม่แพ้กัน เริ่มจากคว้า 2 เหรียญทองแดง ในศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2567 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ส่วนผลงานโอลิมปิก ที่ประเทศฝรั่งเศส รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง "ออย" ยกท่าสแนตช์ ไปได้ 88 กิโลกรัม และ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 112 กิโลกรัม น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 200 กิโลกรัม จบอันดับที่ 3 คว้าเหรียญทองแดงให้กับทีมชาติไทย

 


อาฒยา ฐิติกุล (กอล์ฟ)


และคนสุดท้าย “จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล โปรสาวไทยอันดับ 5 ของโลก ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอด คว้าแชมป์กอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ รายการสุดท้ายของปี “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ พร้อมเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 4 และเป็นแชมป์ที่ 2 ในปีนี้
 

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังคว้ารางวัลใหญ่อย่าง “Aon Risk Reward Challenge” ซึ่งเป็นรางวัลให้กับนักกอล์ฟที่ทำผลงานจากการเล่นหลุมยากตลอดทั้งปีของแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่ง “จีโน่” มีคะแนนเฉลี่ยเป็นอันดับ 1 (-0.900 แต้ม) จากการเล่นหลุมยากทั้งหมด 30 หลุม รับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 34 ล้านบาท)


stadium

author

"เจมส์จินโญ่" ธัมมสาร อ่อนเกิดแก้ว

StadiumTH Content Creator / รักเชลซี พิคานย่า และ ทุกอย่างที่เป็นบราซิล

โฆษณา