stadium

ดอน สิทธิพร จากนักวิ่งสู่ Bobsleigh ทีมชาติ พิชิตโอลิมปิกฤดูหนาว 2026

27 พฤศจิกายน 2567

จากฮีโร่นักวิ่งระยะสั้นทีมผลัด 4x100 เมตรซีเกมส์ สู่เป้าหมายโอลิมปิกฤดูหนาว นี่คือเส้นทางที่ดอน สิทธิพร ดอนไพรที ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของ ทีม BOBSLEIGH AND SKELETON ทีมชาติไทย นี่คือเรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงเป้าหมายในอนาคตหลังจากนี้

 

 

จากซีเกมส์สู่โอลิมปิกฤดูหนาว

 

ย้อนกลับไปในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งล่าสุดครั้งที่ 32 ที่สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ดอน สิทธิพร และเพื่อนร่วมทีมวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย คือ โอ๊ต ธวัชชัย หีมเอียด, ต้า สรอรรถ ดาบบัง และเฉาก๊วย ชยุตม์ คงประสิทธิ์ สร้างผลงานในการคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขัน เป็น 1 เหรียญประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ในฐานะนักวิ่งทีมชาติไทยของดอน สิทธิพร

 

แต่หลังจบการแข่งขันในแมตช์นั้น แม้จะยังมีโอกาสและได้เก็บตัวอยู่ในสมาคม แต่ดอนก็ได้รับโอกาสสำคัญ ที่ ณ เวลานั้น ตัวเขาเองยังไม่ได้คาดคิดเลยว่า จะพลิกผันชีวิตสู่การเป็นนักกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว

 

“ช่วงที่มารู้จักกับกีฬานี้ เพราะว่าผู้ใหญ่แนะนำว่ามีกีฬาตัวหนึ่ง ที่อยากให้เราลองเล่นดู แล้วเค้าต้องการนักวิ่งที่มีความเร็วอยู่แล้วมาช่วยตรงนี้ จังหวะนั้นผมก็เลยอยากหาอะไรใหม่ๆ ทำด้วยพอดี และมีโอกาสได้ไปคัด เข้ามาในทีม Bobsleigh ตรงนี้ พอคัดเสร็จก็ได้ติดทีมชาติมาจนปัจจุบัน ตอนนี้เริ่มมา 8 ถึง 10 เดือนแล้วครับ”

 

กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาฤดูหนาว คือ BOBSLEIGH AND SKELETON หรือเลื่อนน้ำแข็ง ซึ่งในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยรู้จักมากนัก เพราะไทยเป็นเมืองร้อน และดอนกับทีม Bobsleigh ไทย เป็นทีมประเทศเมืองร้อนทีมแรกที่เล่นกีฬาชนิดนี้ ลักษณะของกีฬานี้จะแข่งกันในร่องน้ำแข็งเป็นแทร็ก ทีมที่ทำเวลาได้น้อยที่สุด จะเป็นผู้ชนะ

 

 

ทำความรู้จักกับ BOBSLEIGH

 

ตำแหน่งหลักๆของ Bobsleigh คือคนนำ เป็นกัปตัน ผู้บังคับทิศทางรถ (ตัวรถมีชื่อเรียกว่า Bob) และเบรกแมน คือ คนพุช หรือผลักรถ เพื่อผลักให้รถไหลไปตามแทร็กร่องน้ำแข็ง และบังคับทิศทางให้ได้ ซึ่งตำแหน่งของดอน ก็คือเบรกแมน

 

“คือ ตอนแรกผมก็ไม่รู้จักเลยว่ากีฬานี้คืออะไร พอผมดูในคลิปก็เห็นว่าเป็นรถ และมีความเร็ว ตอนแรกผมก็ไม่เคยคิดว่าบ้านเราเมืองร้อน ไม่มีหิมะจะเล่นได้ยังไง แต่ผมก็มีความฝันอย่างหนึ่งว่าอยากสัมผัสหิมะกับอากาศหนาว แล้วพอได้สัมผัสครั้งแรก เล่นครั้งแรกคือที่เกาหลี มีความแพนิค กลัวเรื่องความเร็ว และการกระแทก แต่พอเล่นไปก็ปรับตัวได้ สนุกมากครับ อยากให้ลองรู้จักเลย”

 

แม้ว่าจะเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยทักษะของการวิ่งเร็วเหมือนกัน แต่ดอนบอกว่า ความรู้สึกและความแตกต่างของกีฬาทั้งสองชนิด ในแง่ความกดดัน ถือว่าแตกต่างกันอย่างมาก  

 

"สำหรับการวิ่งมันสั้น แต่ความกดดันสูง ส่วนกีฬานี้มันใช้สมาธิ ความกดดันที่เกิดขึ้นจะเกิดกับตัวเองเป็นหลักมากกว่า พอเราลงไปในรถก็จะเป็นเทคนิคของผู้ขับ เราก็จะคลายความกดดันไป ระยะเวลาการแข่งจะต่างกันกับการวิ่ง คือการวิ่งสั้นกว่า อันนี้ใช้เวลานานกว่าแต่กดดันน้อยกว่า"

 

 

โค้ชความเร็วระดับตำนาน

 

BOBSLEIGH ทีมชาติไทยในตอนนี้ถือเป็นชุดแรกและชุดบุกเบิกอย่างแท้จริง ภายในทีมมีนักกีฬาชายสี่คน และหญิงสองคน และโค้ชสปรินเตอร์ คือ โค้ชเหรียญชัย สีหะวงษ์ อดีตตำนานนักวิ่งทีมชาติไทย ช่วยดูแลอยู่ และกัปตันเพชร เป็นกัปตันทีม และกำลังติดต่อไปยังทีมเกาหลีใต้ เพื่อให้เข้ามามาช่วยฝึกสอน

 

โค้ชเหรียญชัยเล่าว่า ได้มารับผิดชอบดูแลเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาความเร็ว และอัตราเร่ง รวมถึง ความแข็งแรงของนักกีฬา โดยมีเป้าหมายคือทำให้สถิติพัฒนาขึ้นเพื่อแข่งโอลิมปิกและชิงแชมป์โลก

 

“ที่จริงกีฬาประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกับการวิ่ง เรื่องความแข็งแรง และความเร็วในการออกตัว ซึ่งผมเป็นนักกีฬาวิ่งระยะสั้น และอดีตผู้ฝึกสอนนักวิ่งทีมชาติไทยมาอยู่แล้ว ก็มีการปรับโปรแกรมเพื่อเทรนให้กับน้องๆ“ โค้ชเหรียญชัยกล่าว

 

โดยการวิ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง และเทคนิคการขึ้นรถ กับการบังคับรถ กับน้ำหนักตัวที่ใช้ในการแข่งขัน ก็มีความสำคัญ โค้ชเหรียญชัยจึงบอกว่า นักกีฬาต้องมีรูปร่างสูง น้ำหนักตัวเยอะ แข็งแรงและมีความเร็ว ซึ่งเป็นความเร็วที่ต้องมีแรงระเบิดที่ดีในการออกตัว เหมือนกับการวิ่งระยะสั้นนั่นเอง

 

“กีฬาประเภทนี้ต้องเน้นเรื่องของความแข็งแรง ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ-และต้องเน้นเรื่องโครงสร้างที่นักกีฬาต้องตัวใหญ่ จะตัวเล็กและบาง เหมือนนักวิ่ง 100 เมตรไม่ได้ ถ้าเป็นนักวิ่งต้องตัวใหญ่แข็งแรงและเร็ว มีอัตราเร่งที่ดี เพราะอัตราการเร่งสั้นแค่ประมาณ 40 เมตร ตอนนี้ผมก็พัฒนาทีม และดูเรื่องคุณสมบัติของนักกีฬารุ่นต่อไป เพื่อเลือกนักกีฬาที่จะเข้ามาช่วยทีม”

 

 

เป้าหมายของทีม BOBSLEIGH

 

ดอน สิทธิพร บอกว่า เป้าหมายในตอนแรกที่เข้ามา เขาไม่รู้เลยว่าจะไปในทิศทางไหน จนมารู้จักกีฬานี้มากขึ้นก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน คือ เราจะไปโอลิมปิกฤดูหนาว กุมภาพันธ์ ปี 2026 ที่อิตาลี  

 

“ตอนนี้เราเดินทาง เป็น Road to อิตาลี 2026 และเป้าหมายยังชัดเจนอยู่ ผมมองว่า ทีมพัฒนาได้ก้าวกระโดดมาก จากที่ไม่รู้จักกันมาเลย ตอนนี้เราเริ่มเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ ให้คนไทยรู้จักกีฬานี้มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าในอนาคตเราอาจจะสานต่อได้ถึงในระดับโลกเลย เพราะผมมองว่าทีมไทยอาจจะเป็นทีมใหม่ก็จริง แต่โอกาสที่จะได้ผ่านเข้าไปแข่งขันถือว่ามีสูง ผมว่าเรามีโอกาสที่จะไปได้”

 

BOBSLEIGH ซีซั่นนี้เปิดฉากในเดือนพฤศจิกายน ไทยจะเข้าไปแข่งขันเพื่อเก็บคะแนน ตามสนามต่างๆ เพื่อให้อยู่ในท็อปแรงก์ เพื่อให้ได้ผ่านไปถึงโอลิมปิก เป้าหมายแรกตอนนี้ คือการต้องได้ไปแข่งชิงแชมป์โลกที่อเมริกา เพื่อการันตีตั๋วไปโอลิมปิก

 

“สำหรับคนไทยทุกคนที่ยังไม่รู้จักกีฬานี้ หรือเพิ่งจะรู้จัก ก็อยากให้ติดตามทีมของพวกเราด้วย และขอกำลังใจจากคนไทยทุกคนมาช่วยเชียร์และเป็นกำลังใจ ซึ่งทุกคนจะทำให้เต็มที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง เพื่อทำให้คนไทยภูมิใจ”


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

โฆษณา