stadium

เปิดเส้นทาง “อิงฟ้า” นักวิ่งดาวรุ่งหญิงเลือดใหม่ วัย 12 ปี

9 ตุลาคม 2567

”เป้าหมายของหนูคืออยากไปโอลิมปิกสักครั้ง“ เป็นคำตอบที่ไม่มีน้ำเสียงของความลังเลจากเด็กหญิงอายุ 12 ปี ที่ชื่อ อิงฟ้า บริภัณฑ์ นี่คือนักวิ่งเลือดใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นมาในรุ่นของของตัวเอง และกำลังไต่เต้าสู่การเป็นนักวิ่งตัวจริง

 

“ผมเจอเขาครั้งแรกเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเค้าอยู่ ป. 4 อายุประมาณ 10 ขวบ” อาจารย์ป๋อ มุรธา พลกรัง เล่าย้อนหลังถึงลูกศิษย์ตัวน้อย ในวันที่อิงฟ้าเข้ามาขอเข้าชมรมกรีฑาของโรงเรียนสาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี

 

“ตอนแรกเค้าก็เป็นแค่เด็กที่สนใจการวิ่งคนหนึ่ง มาตามหาคนสอนวิ่งในโรงเรียน จนไปเจออาจารย์ท่านหนึ่งและแนะนำให้รู้จักกับผม ซึ่งคนในโรงเรียนก็ทราบอยู่แล้วว่าชมรมกรีฑามีผมดูแลอยู่ วันที่อิงฟ้ามาขอเข้าชมรมตอนนั้นก็มีคนชวนเขาเล่นวอลเลย์ และแฮนด์บอล แต่เขาไม่สนใจ จากวันนั้นเค้าก็อยู่กับผมมาตลอด”

 

ส่วนอิงฟ้านั้นบอกว่า เธอรู้สึกชอบการวิ่งมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่มีโอกาส เพราะที่บ้านไม่สนับสนุนให้เล่นกีฬากลางแจ้ง จนโตขึ้นมาระยะหนึ่งชั้นประถมปีที่สี่ จึงตัดสินใจ อยากฟังความฝัน และอยากลองเข้าชมรมวิ่ง “ตอนนั้นหนูยังไม่รู้เลยว่า ใครคืออาจารย์ป๋อ แล้วที่บ้านหนูก็ไม่โอเค เพราะกลัวเราจะไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ยอม เพราะอาจารย์ป๋อไปคุยจนเปิดใจ ซึ่งตอนนั้นคนที่ห่วงหนูที่สุดก็คือคุณยาย ยายกลัวว่าหนูจะเหนื่อย และยายกลัวว่าหนูจะผิดหวัง“

 

จากวันแรกสู่ชมรมกรีฑา อิงฟ้ามาฝึกซ้อมพร้อมกับรองเท้าผ้าใบหนึ่งคู่ อาจารย์ป๋อยืนยันว่า เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป "เค้าไม่ติดมือถือ ฝนตกเค้าก็มา ไปเรียนพิเศษออนไลน์ก่อนแล้วค่อยมาซ้อมก็มี เค้ามีวินัยมาก ไม่กลัวรุ่นพี่ จุดแข็งเขาคือจิตใจและทัศนคติ ซ้อมวันแรกผมก็เห็นเลยว่า เค้าเรียนรู้เร็วมาก"

 

 

เหรียญแรกในฐานะนักวิ่ง

 

หลังเข้ามาซ้อมกับชมรมกรีฑาได้ประมาณสองเดือน อิงฟ้ามีโอกาสได้ไปแข่งขันกีฬานักเรียนของจังหวัดชลบุรีและคว้าเหรียญทองแดงได้สำเร็จ 2 เหรียญ ในระยะ 60 เมตร และ 100 เมตร “หนูดีใจมากนะคะ อาจารย์ป๋อก็ชม เพราะหนูเพิ่งซ้อมได้ประมาณสองเดือนเอง พอแข่งต่อก็ได้มีโอกาสไปคัดระดับภาคของเยาวชน ตอนแรกหนูก็คิดว่าจะสู้พี่ ๆ ไม่ได้ แต่ก็คัดติด” อิงฟ้าเล่าย้อนหลังถึงการแข่งขันครั้งแรกของเธอ

 

พัฒนาการของอิงฟ้าเห็นได้ชัดมากขึ้น จนมีโอกาสได้เข้าสู่การแข่งขันอีกครั้ง โดยเมื่อปี 2023 อิงฟ้าคัดเลือกติดการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษากระบี่เกมส์ รอบประเทศเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ได้เหรียญรางวัล เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ห้าในระยะ 800 เมตร ซึ่งอิงฟ้าในตอนนั้นอายุเพียง 12 ปี

 

อาจารย์ป๋อบอกว่า "ก็รุ่นพี่เค้าทั้งนั้น ทีมชาติก็เยอะมาก แต่ผมถือว่าประสบความสำเร็จเพราะเวลาลดลง สามารถวิ่งไล่รุ่นพี่มัธยมต้นได้ และผมต้องการฝึกสอนเขาตามเกณฑ์ ซึ่งอายุปัจจุบัน ยังไม่ควรวิ่งเกิน 800 เมตร"

 

 

แจ้งเกิดในกรีฑาชิงแชมป์ประเทศไทย

 

หลังจากนั้นมาแพสชั่นและวินัยของอิงฟ้าก็ไม่ได้ลดลง แต่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น ด้วยความฮึกเหิมหลังจากมีโอกาสได้ลงแข่งขัน ทำให้ในปี 2024 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเด็กหญิงคนนี้

 

อาจารย์ป๋อเล่าว่า อิงฟ้ามีความมั่นใจมากขึ้น เพราะการได้คัดตัวติดในระดับจังหวัด และชนะรุ่นพี่ในจังหวัดชลบุรี

 

“ปี 2024 เป็นจุดเปลี่ยนเลยครับ จากการแข่งระดับจังหวัดที่ ชนะรุ่นพี่ได้ทำให้การแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์ประเทศไทย 2024 อิงฟ้าประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการได้เหรียญทองระยะ 800 เมตร ทำสถิติ 2.26 นาทีตั้งแต่อายุ 12 ปี ในรุ่นอนุชน และอีกสองเหรียญทองจากรายการวิ่งผลัด ผมก็ทำการบ้านมาเยอะ แต่ไม่คิดว่าเค้าจะมาได้ขนาดนี้ เคยหวังแค่ว่าเข้ารอบชิง หรือติดหนึ่งในห้าก็พอแล้ว”

 

ซึ่งก่อนแข่งขันอาจารย์ป๋อสังเกตเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของอิงฟ้าจึงให้กำลังใจตามหลักจิตวิทยา  

 

“เห็นหน้าเขาผมก็รู้แล้วว่ากังวล ผมเลยบอกเขาว่า แค่นี้ก็กำไรแล้ว ไปให้สุด เรามีความเร็ว ผมลูบหัวเขาและบอกเขาว่า ทำให้เต็มที่ และถ้าเข้าเส้นชัยอย่าลืมทำท่าฉลามที่อาจารย์สอนด้วยนะ ปรากฏว่าพอเค้าชนะ เค้าก็ทำท่านั้นจริง เหมือนในหัวเขาไม่ได้คิดเรื่องอื่น นอกจากต้องชนะแล้วทำท่านี้ (หัวเราะ)”

 

 

เบื้องหลังความสำเร็จของเด็กอายุ 12

 

ท้ายที่สุดแล้ว การฝึกซ้อมที่สะสมมาและคำแนะนำของอาจารย์ป๋อ ทำให้ความกลัวที่เกิดขึ้นกับอิงฟ้าลดน้อยลง แม้จะเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่อย่างชิงแชมป์ประเทศไทย อิงฟ้าเล่าว่า “ก่อนแข่งขัน หนูก็สูดหายใจลึก ๆ ทำใจให้สบาย ตอนแรกหนูก็กดดัน และคิดว่ายาก เพราะเป็นรอบประเทศ แต่ก็รู้ว่าถ้าทำได้ครอบครัวจะดีใจ"

 

และคนที่ดีใจที่สุดก็คือคุณยายของอิงฟ้า ซึ่งหลังจากเห็นว่าหลานสาวมีความมุ่งมั่น ก็ให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิดมาตลอด ทั้งการซื้ออุปกรณ์ กระเป๋า และรองเท้าให้หลานสาว รวมทั้งการให้กำลังใจ และทุกคนในครอบครัวก็เช่นเดียวกัน

 

โดยหลังจากนี้ อาจารย์ป๋อวางแผนให้กับอิงฟ้า ด้วยการซ้อมตามโปรแกรม และความเหมาะสมของช่วงวัย โดยเน้นเรื่องการมีความสุขในการซ้อม ให้มีบรรยากาศไม่เคร่งเครียด ไม่มีการว่ากล่าวหรือกดดัน ซึ่งอนาคตอาจารย์ป๋อตั้งเป้าให้พัฒนาโดยมุ่งไปที่การวิ่ง 400 เมตรและ 800 เมตร

 

ส่วนเป้าหมายของอิงฟ้า คือ ความฝันใหญ่ ถึงการได้ไปโอลิมปิกสักครั้ง  แม้จะออกตัวว่า “หนูคิดไกลเกินไปไหม” แต่ในน้ำเสียงก็ไม่มีความรู้สึกที่ลังเลแม้แต่นิดเดียว เป็นอีกหนึ่งพื้นฐานที่สำคัญของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนล้วนเริ่มต้นจากความฝันที่ดูเหมือนไกลเกินไป เพื่อผลักดันตัวเองให้มีความมุ่งมั่นในการไล่ล่าสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจริง


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง