3 ตุลาคม 2567
ฉายแววความเป็นนักวิ่งวิบาก นับตั้งแต่ติดทีมชาติครั้งแรก การแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย ที่สนามศุภชลาศัย ปี 2023 จนถึงวันที่ใกล้พิชิตความฝัน การทำลายสถิติประเทศไทยวิบาก 3,000 เมตร ด้วยผลงานกีฬามหาวิทยาลัย ในสถิติซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นกับนักกีฬาไทยมานานกว่า 10 ปี นี่คือเรื่องราวของ คิง ธเนศ สมดวน นักวิ่งเลือดใหม่วัย 20 ปี จากจังหวัดอุดรธานี
ย้อนกลับไปสมัยอายุ 15 ปี คิงซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำอำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ชั้นมัธยมปีที่สาม ตอนนั้นครูกำลังหาเด็กไปแข่งกีฬานักเรียน เจษฎา สมดวน พี่ชายของคิง จึงแนะนำให้เริ่มต้นวิ่งเป็นครั้งแรก
“ตอนแรกก็ชอบครับ แต่ไม่คิดจะจริงจัง คิดว่าแข่งให้จบรายการนั้นแล้วจะเลิก แต่ปีนั้นอุดรเป็นเจ้าภาพรอบประเทศ ผมเลยตั้งใจอยากให้ได้ไปแข่ง ตอนนั้นแข่ง 5,000 เมตร แล้วก็ได้เป็นตัวจริงในระดับประเทศ ทั้งที่เริ่มวิ่งไม่ถึงหนึ่งปี”
รายการแรกของคิง 5,000 เมตร กีฬานักเรียนระดับประเทศ จบที่อันดับสี่ ได้จุดประกายให้คิงเดินหน้าซ้อมต่อคิงเล่าว่า รู้สึกอยากวิ่งวิบากมาตั้งแต่แรก แต่ในตอนนั้นอายุยังน้อย ครูกลัวว่าจะบาดเจ็บ บวกกับมีรุ่นพี่ที่แข่งระยะนั้นอยู่แล้ว โอกาสในการวิ่งวิบากจึงยังไม่มาถึง
จนขึ้นเรียนชั้นมัธยมปีที่ห้า มีการแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นเยาวชน ที่สนามสามโคก คิงจึงได้รับโอกาสในการแข่งวิ่งวิบาก 3,000 เป็นครั้งแรก “ตอนนั้นชอบมาก จำได้ว่าตกรั้วน้ำ ต้องคลานขึ้นจากบ่อ ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้างแต่ก็เริ่มจับจังหวะได้ ตอนนั้นไม่ได้ตั้งเป้า ยังไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ผิดหวัง เพราะอยากเล่นมานาน พอได้วิ่งจริงกลับทำได้ไม่ดี”
จากนั้นไม่นาน โอกาสครั้งที่สองก็มาถึง คิงได้เป็นตัวจริงของโรงเรียนและเริ่มได้แข่งระดับจังหวัด ได้เจอกับอดีตทีมชาติวิบาก 3,000 เมตร คือเฟรม ชยพล บุญอุปละ ที่งานชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2023 ซึ่งเป็นการแข่งระดับนานาชาติ มีตัวเก่งจากอินโดนีเซียร่วมแข่งขันด้วย
ท้ายสุดคิงคว้าเหรียญทองแดง สถิติ 9.56 นาที ตามที่ตั้งเป้าไว้ แพ้เฟรม และนักวิ่งจากอินโดนีเซีย ซึ่งคิงบอกว่า การแข่งครั้งนี้ทำให้รู้สึกชอบการวิ่งวิบากมากขึ้น แต่ตอนนั้นเนื่องจากอายุยังไม่ถึง จึงยังต้องแข่งในรุ่นเยาวชน วิ่งวิบาก 2,000 เมตรไปก่อน
จนถึงรุ่นประชาชน ในปีนั้น มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพในปี 2023 คิงที่ได้รับโอกาสจากโค้ชเบส (พันจ่าอากาศเอก กิตติพงษ์ จอนด้วง) ซึ่งแนะนำให้มาเรียนต่อที่กรุงเทพมหานครในช่วงรอยต่อชั้นมัธยมพอดี
“ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดจะติดทีมชาติ แค่อยากเรียนฟรี ก็เลยตัดสินใจมาเรียนที่ราชมงคลธัญบุรี ช่วงนั้นไป-กลับอุดรตลอด ได้ตารางซ้อมจากโค้ชเบส สักพักก็ได้ไปซ้อมที่ธรรมศาสตร์รังสิต และรู้จักกับโค้ชเชือน (น.อ.เชือน ศรีจุดานุ อดีตเจ้าของสถิติประเทศไทย และโค้ชทางไกลทีมชาติไทย)“
โค้ชเชือนนั้น ในกลุ่มของนักวิ่งไทยจะทราบดีว่า มีโปรแกรมการซ้อมที่เข้มข้น สามารถเค้นพัฒนาการของนักกีฬาออกมาได้เต็มศักยภาพมาแล้วหลายต่อหลายคน จึงเป็นโอกาสที่สำคัญอีกครั้งของคิง และมาพร้อมกับการได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยในชิงแชมป์เอเชีย กรุงเทพมหานคร 2023
“ผมไม่รู้จักอาจารย์เชือนมาก่อน แต่รู้จักชื่อเสียงว่า แกเป็นเจ้าของสถิติประเทศไทย และโค้ชทีมชาติ พอโค้ชเบสแนะนำ ผมก็ได้มาซ้อมกับอาจารย์เชือน จนได้ติดทีมชาติ ตอนนั้นผู้ใหญ่คงมองว่าเหมาะสม ผมตื่นเต้นมากนะ แต่ก็คิดว่าแค่ทำเวลาของตัวเอง เพราะรู้ว่าสู้กับต่างชาติไม่ได้ มันไม่เหมือนชิงแชมป์ประเทศไทย งานมันใหญ่มาก”
ท้ายที่สุดที่สนามศุภชลาศัยในรายการวิบาก 3,000 เมตร คิงได้ทำสถิติใหม่ให้กับตัวเอง ที่ 9.52 นาที จากสถิติการวิ่งครั้งก่อน ทำสถิติไว้ที่ 9.56 นาที แม้เวลาจะลดลงไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จในฐานะทีมชาติ
ไม่นานจากนั้น ก็เป็นการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่กาญจนบุรี ในฐานะตัวแทนจังหวัดอุดรธานี คิงและโค้ชประจำจังหวัด ตั้งเป้าหมายไว้ที่รายการวิบาก 3,000 นอกจากเหรียญทองแล้วคิงยังแอบตั้งเป้าถึงการทำสถิติใหม่ให้ได้อีกครั้ง
ผลจากการมุ่งมั่นฝึกซ้อมและโปรแกรมของโค้ชเชือน สถิติของคิงในรายการนี้ลดลงแบบก้าวกระโดด คว้าเหรียญทองด้วยเวลา 9.32 นาที “ตอนนั้นผมรู้สึกว่าโดนตามจี้ จนสองรอบสุดท้าย เลยวิ่งแบบไม่ลืมหูลืมตา” สนามนี้คิงเจออดีตทีมชาติสองคน ทั้งเฟรม คู่แข่งเก่า และโค้ชเดี่ยว ปฏิการ เพชรศรีชา
“รู้สึกดีมาก ประทับใจ เพราะเป็นการเล่นรุ่นใหญ่ครั้งแรก แล้วเราชนะได้ ก็มั่นใจขึ้นมาก เป็นกีฬาแห่งชาติครั้งแรกของผมด้วย ทำให้รู้สึกอยากจะมุ่งมั่นต่อไปสำหรับวิบาก และจากวันนั้นทำให้ได้ฉายาจากกลุ่มเพื่อนว่าเป็นคิงเทพรั้วน้ำ(หัวเราะ)”
แต่แล้วก็ต้องพลาดหวังในกีฬามหาวิทยาลัย 2024 ซึ่งแม้จะได้เหรียญแต่สถิติไม่ได้ตามเป้า คิงเล่าว่าวันนั้นรู้สึกผิดหวัง เหมือนกับสติแตก เพราะตั้งใจมากและกดดันตัวเองเยอะไป
มีเวลาให้ผิดหวังไม่นานการแข่งไทยแลนด์โอเพ่น 2024 ก็มารออยู่ โดยเป็นครั้งแรกที่ไชนีสไทเปส่งนักวิ่งลงแข่งในรายการวิบาก 3,000 “ตอนแรกไม่กดดัน เพราะไม่รู้จัก พอไปเจอเขาในคอลรูม ผมไปถามสถิติ แล้วเค้าบอกว่าวิ่ง 9.03 นาที ก็เลยตกใจขึ้นมา สุดท้ายก็แพ้เขา ได้เหรียญเงิน”
คิงบอกว่า ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเสียใจหนักกว่าเดิม เพราะยังตั้งเป้าที่จะทำสถิติใหม่ให้ได้อีก แต่ก็ไม่ได้ตามที่หวัง คิงเล่าว่าการซ้อมของเค้าหนักมาก โดยเฉพาะช่วงสองเดือนก่อนแข่ง มีความรู้สึกท้อ เหนื่อยล้า แต่ก็พยามจัดการกับความรู้สึกตัวเอง
“คือผมซ้อมหนักมาก ตอนซ้อมก็คิดว่า วันนี้เต็มที่ พรุ่งนี้ก็เอาใหม่ วันนี้หนักแล้ว พรุ่งนี้ก็หนักอยู่ดี (หัวเราะ) แต่ผมก็ชิน วันไหนไม่ได้ซ้อม ก็เหมือนกับอะไรขาดหายไป เป็นกิจวัตรของผม”
แต่ศึกใหญ่ในต่างประเทศก็มาถึงช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งเดือน คือการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ที่สุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย งานนี้คิงตั้งเป้าล้างตาทำสถิติใหม่ให้ตัวเอง โดยไม่ได้หวังเรื่องเหรียญรางวัล
“ตอนแข่งจริงเวียดนามไม่ได้มา ผมกังวลแค่มาเลเซียกับฟิลิปปินส์ แต่พอวิ่งจริงเป็นอินโดนีเซียที่เปิดแรงมาก ผมก็ให้เขาลากช่วงแรกๆ เพราะตั้งใจจะทำเวลา ผ่านไปสองรอบมีนักกีฬาแค่สามคนที่เป็นกลุ่มนำ คือผมและอินโดนีเซียสองคน เลยกดดันน้อยลง”
แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งในนักกีฬาของอินโดนีเซียเริ่มเสียหลักระหว่างกระโดดรั้วน้ำในรอบสุดท้าย คิงซึ่งตามหลังอยู่ประมาณ 50 เมตรสังเกตเห็น จึงย้อนนึกถึงการซ้อมที่ผ่านมา ในการสปรินต์ช่วง 200 เมตรสุดท้าย
“ผมเห็นเค้าชะงัก เลยคิดว่าทันแน่นอน เพราะตอนโดดรั้วน้ำ เท้าผมยังไม่เปียกเลย จังหวะผมดี ไม่ชะงัก สุดท้ายเลยจี้ได้ จนถึง 200 เมตรสุดท้าย ผมดึงพลังเฮือกสุดท้ายขึ้นมา จังหวะนั้นเค้าหันมามองเห็นผม คืออีก 10 เมตร สุดท้าย ผมจะกดหัวเข้าเส้นชัยแต่โดนดึงไว้ เลยกลายเป็นล้มเข้าเส้นชัย”
เสี้ยววินาทีนั้นทำให้คิงเป็นผู้ครอบครองเหรียญเงินจากการแข่งขันครั้งนี้ พร้อมกับสถิติใหม่ 9.26 นาที ซึ่งเป็นสถิติที่ยังไม่เคยมีคนไทยคนใดทำได้ตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
“ตอนรู้ น้ำตาจะไหล เพราะที่ผ่านมันไม่ได้ตามเป้า แต่ครั้งนี้เกินเป้าไปมาก ได้สถิติและได้เหรียญ นักกีฬาฟิลิปปินส์เข้ามาชมผม เพราะไม่มีใครคิดว่าเราจะทำได้”
ณ ตอนนี้ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น เท่ากับว่าโอกาสในการติดทีมชาติชุดใหญ่ของคิงยังมีอีกยาวนานหลายปี รวมถึงอีกหนึ่งเป้าหมายซึ่งเจ้าตัวตั้งเอาไว้ คือการทำสถิติประเทศไทยวิบาก 3000 เมตร ของครูป้อม จิระศักดิ์ สุทธิชาติ (8.52.47 นาที)
บนเส้นทางของนักวิ่ง คือการต่อสู้กับระยะทางเดิม ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ทุกสนามคือความท้าทาย และการสั่งสมประสบการณ์ ไม่ใช่แค่เพียงชัยชนะที่จะเป็นรางวัลของนักกีฬาทุกคน
ตลอดช่วงหลายปีบนเส้นทางการวิ่งของคิงก็เช่นกัน มีทั้งสมหวังและผิดหวัง แต่เมื่อยังคงมีความมุ่งมั่น และความตั้งใจ ก็ยังมีโอกาสเสมอในการทำได้ตามเป้าหมาย เช่นเดียวกับกำแพงสูง สถิติประเทศไทย การแข่งขันวิ่งวิบาก 3,000 เมตร
TAG ที่เกี่ยวข้อง