16 พฤษภาคม 2567
สัมผัสกับเหรียญทองจากการแข่งวิ่งครั้งแรกตั้งแต่อายุห้าขวบ พัฒนาฝีเท้ามาจนถึงปัจจุบันในวัย 17 ปี เบิร์ด วีรยุทธ แดนขนบ ได้ขึ้นเป็นหนึ่งในทำเนียบนักกีฬาเหรียญทองระดับนานาชาติของประเทศไทย จากการแข่งขันกรีฑา Asian U20 ที่ดูไบ 2024 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
พรสวรรค์ตั้งแต่ระดับอนุบาล
จากเด็กอนุบาลหนึ่ง ที่แข่งวิ่งผลัด ในการแข่งขันกีฬาสี คว้าเหรียญทองแรกในชีวิต ขยับขึ้นมาจริงจังบนเส้นทางการเป็นนักวิ่งจนถึงชั้นประถม โรงเรียนวัดบางขวน จังหวัดพัทลุง คือจุดเริ่มต้นการบ่มเพาะการเป็นนักกรีฑาให้กับเบิร์ด ผ่านการพบเจอครูคนแรกที่ชี้เส้นทางสู่การวิ่ง นั่นคือครูกฤษดา หนูฤทธิ์ ปูเส้นทางสู่ความฝัน ให้กับเด็กชายจากจังหวัดพัทลุง
“ผมเป็นคนพัทลุง เกิดที่สงขลา แต่มาโตที่พัทลุงครับ เรียนอยู่พัทลุงมาตั้งแต่เด็ก เริ่มวิ่งครั้งแรกตอนห้าขวบ คืออนุบาลหนึ่ง แข่งกีฬาสี วิ่ง 8 × 50 ได้เหรียญทอง แล้วมาจริงจังตอนเรียน ป. 6 ได้แข่งกีฬาระดับตำบลและอำเภอ ได้เหรียญทอง 6 เหรียญ ครู (กฤษดา) เห็น ก็เลยส่งไปแข่งกีฬาจังหวัดพัทลุง”
จุดเริ่มต้นในการวิ่งของเบิร์ด แม้จะไม่แตกต่างจากนักวิ่งวัยเดียวกันคนอื่น แต่ความมุ่งมั่นของเค้าชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อมีโอกาสลงแข่งระดับจังหวัด เบิร์ดก็คว้าเหรียญทองได้แบบสม่ำเสมอ จนมีโค้ชท่านที่สองเข้ามาให้โอกาสครั้งสำคัญ คือ โค้ชภัทรศักดิ์ เส็นหีม หยิบยื่นโอกาสในการร่วมแข่งขันงานของกรมพลศึกษา ที่จังหวัดปทุมธานี กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดแรกในชีวิต
“ตอนแข่งกีฬาจังหวัดที่พัทลุงแข่ง 200, 4 × 100, 8 × 50 ได้เหรียญทองหมดเลย โค้ชคนแรกของผม (โค้ชภัทรศักดิ์) ก็เลยเห็น เลยส่งต่อไปแข่งที่กรมพละ ที่ปทุมธานี ได้เหรียญทอง 1 เหรียญเหรียญเงิน 2 เหรียญ ตอนนั้นดีใจมาก เป็นรายการใหญ่แรกก็ทำได้เลย”
การวิ่งยังทำให้เบิร์ดหาเงินให้กับตัวเองได้เป็นครั้งแรกในชีวิต จากการเป็นเป็นตัวแทนเก็บตัวสปอร์ตฮีโร่ของจังหวัด เป็นจุดเปลี่ยนแรกที่ทำให้ความคิดในโลกของการวิ่ง สู่การยกระดับและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อหารายได้มาดูแลพ่อแม่
ขึ้นสู่ระดับชั้นมัธยม
จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงที่โควิด-19 ระบาด เบิร์ดที่กลับไปซ้อมอยู่ที่จังหวัดพัทลุงต้องพักยาว ก่อนสมัครเข้าสอบที่โรงเรียนอุบลรัตน์ราชกัญญาวิทยาลัย จังหวัดพัทลุง แม้จะไม่ได้ซ้อม แต่ก็สอบผ่าน เข้าเรียนระดับมัธยมได้สำเร็จ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเข้าสู่ชมรมวิ่ง
“จบงานที่ปทุมก็กลับมาซ้อมที่พัทลุง ก็เจอโควิดพอดี พักไปสองเดือน มาสมัครสอบโรงเรียนอุบลรัตน์ราชกัญญา ตอนนั้นไม่ได้ซ้อมเลย แต่ก็คัดผ่านได้เข้าเรียน ม. 1 และได้เข้าชมรมวิ่ง”
นั่นทำให้เบิร์ดได้พบกับโค้ชคนปัจจุบัน คือ โค้ชวิริยะ เพิ่มพูล การซ้อมวิ่งเป็นระบบเติบโตขึ้นตามวัย ทำให้สถิติของเบิร์ดพัฒนาดีขึ้นมาก จนตัวเบิร์ดเองรู้สึกตามไปด้วยว่าการวิ่งคือทางของเขา ทั้งสนุก มีเพื่อน และทำสถิติได้ดีขึ้น
ไม่นานหลังจากนั้น เบิร์ดก็ได้รับข่าวดี เรียกตัวเข้าทีมชาติชุดยุวชนเอเชีย ที่อุซเบกิสถานปี 2023 “ ดีใจมากได้มาเก็บตัว แม่ก็ดีใจ บอกว่าเป็นก้าวแรกที่ได้ติดทีมชาติ ตอนแรกเข้ามาสมาคมก็ตื่นเต้น เพราะไม่รู้จักใคร แต่ไม่ได้รู้สึกกังวล สุดท้ายก็ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน รวมถึงการซ้อม ถึงแม้จะหนักกว่าที่ผ่านมา แต่ก็เป็นไปเพื่อการไปต่างประเทศครั้งแรกของผม”
ทำสถิติประเทศไทย
ที่อุซเบกิสถาน ประสบการณ์การเดินทางไปแข่งขันครั้งแรกของเบิร์ด ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามด้วยการทำสถิติประเทศไทย ประเภทผลัดเมดเลย์ และได้เหรียญทองกลับมา ความรู้สึกของเบิร์ดคือความภูมิใจที่ทำสถิติได้ ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
แต่เส้นทางของเบิร์ดไม่ได้จบที่อุซเบกิสถาน เขากลับมาแข่งกีฬาภายในประเทศหลายครั้ง ได้รับเหรียญรางวัลแบบต่อเนื่อง จนกระทั่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จังหวัดราชบุรีในปี 2024 ที่ผ่านมา ลงแข่งสี่รายการได้เหรียญทองทั้งหมด
“แข่ง 100 เมตร 200 และ 4 × 100 และผลัดเมดเล่ย์ ได้เหรียญทั้งหมดเลย เป็นการเแข่งในนามจังหวัดพัทลุงครั้งที่สามของผม แต่ดีใจมากที่สุด เพราะตอนแข่งครั้งบาดเจ็บ ไม่ได้เหรียญตามที่ตั้งใจ บวกกับยังไม่มีมีประสบการณ์ ที่ราชบุรีผมรู้สึกว่าพัฒนาเยอะมาก ทั้งสมาธิความแข็งแกร่ง ไม่ตื่นสนาม มั่นใจมากขึ้น”
เบิร์ดเล่าว่าบุคคลที่เป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดของเค้า ก็คือแม่ ซึ่งอวยพรให้ทุกครั้ง ให้มีความตั้งใจ และทำให้ได้เพื่ออนาคต “ผมเป็นลูกคนเดียวก็อยากดูแลแม่ เงินที่ได้ส่วนนึงก็ให้แม่ แม่ผมทำสวนยาง แม่ดีใจที่ได้พึ่งพาลูกบ้าง เพราะที่ผ่านมาแม่ดูแลผมมาตลอด ผมภูมิใจที่หาเงินให้แม่ได้ตั้งแต่อายุ 13”
ความสำเร็จในการแข่งเดี่ยวระดับนานาชาติ
จากนั้นไม่นานโอกาสที่สำคัญอีกครั้งก็มาถึง เบิร์ดถูกเรียกติดทีมชาติเพื่อการแข่งขัน U20 ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา เบิร์ดเล่าว่า การซ้อมในครั้งนี้เข้มข้นและแตกต่างจากเดิมมาก เนื่องจากเป็นการแข่งขันในรุ่นอายุที่สูงขึ้น
“สมาคมส่งหนังสือขอมาทางโรงเรียนให้มาแข่งที่ดูไบ ตอนนั้นผมก็ดีใจที่ได้ไปต่างประเทศอีกครั้ง แต่ยังไม่รู้เลยว่าดูไบเป็นแค่ชื่อเมือง รู้แต่ว่าต้องไปแถวอาหรับและเป็นทะเลทราย ผมก็ไปเก็บตัวที่สมาคมประมาณสี่สัปดาห์ พอเดินทางไปถึงก็ตื่นเต้นกับการแข่งเพราะทราบว่าจะต้องลงแข่ง 200 กับ 4 × 100“
การแข่งขัน 200 เมตรเริ่มต้นขึ้นก่อน มีการแข่งรอบคัดตัวทั้งหมดสองครั้ง เบิร์ดทำได้ได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก ด้วยการทำลายสถิติของตัวเอง ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ช่วยปลดล็อคความกดดันและตื่นเต้นของตัวเอง ในรอบรองชนะเลิศ จนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้
“พอเข้าระบบได้ก็ผ่อนคลาย เพราะทำสถิติได้ตั้งแต่รอบคัด ก็ยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้น ใจลึกๆ ผมแอบคิดว่าจะได้เข้าชิงอยู่แล้ว” แต่เพราะเป้าหมายมีไว้พุ่งชน สุดท้ายการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจบลงด้วยชัยชนะของเบิร์ด วีรยุทธ พร้อมกับการทำลายสถิติของตัวเองครั้งที่สอง คือ 20.84 วินาที ในระยะ 200 เมตร ซึ่งน้อยคนในประเทศไทยจะสามารถทำได้
มุ่งสู่สถิติใหม่
ความรู้สึกของเบิร์ดในตอนนั้น ท่วมท้นไปด้วยความสุข ซึ่งเขาบอกว่านี่คือความดีใจมากที่สุดในชีวิต “ตอนนั้นผมไม่ได้คิดว่าจะได้ที่หนึ่ง แค่คิดว่าอยากให้สถิตดีขึ้นเฉยๆ พอมารอบ 4 ผมหวังลุ้นเหรียญ ตอนวิ่งคิดว่าพยายามทำแบบที่ซ้อมมา ไม่เกร็ง โฟกัสกับตัวเอง ถึงช่วง 10 เมตรสุดท้าย ผมคิดว่าได้ที่หนึ่งแน่ แต่อยากได้สถิติอีกรอบ พอทำได้ก็ดีใจมาก มากที่สุดในชีวิต มันท่วมท้น ความรู้สึกมันล้นออกมา ตอนที่รับเหรียญผมยิ้มไม่หยุดเลย“
กว่า 10 ปีบนเส้นทางการวิ่ง มีบ้างที่เหนื่อยและท้อ มีช่วงเวลาที่บาดเจ็บและเสียใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดูไบ ทำให้เบิร์ดเข้าใจว่า ทุกสิ่งที่ผ่านมา คือการทดสอบ ให้เขาแข็งแกร่งขึ้น จนประสบความสำเร็จในที่สุด
“ผมคิดว่าความพยายามที่ทำมาไม่สูญเปล่าเลย เคยมีที่เหนื่อยบ้าง ตอนที่เจ็บเคยเศร้า แต่มีกำลังใจจากโค้ช เพื่อนในทีม ก็กลับมาได้ ผมอยากขอบคุณโค้ชภัทรศักดิ์ โค้ชกฤษดา ครูคนแรกที่พาผมมาซ้อม ถ้าครูไม่เห็นผมวันนั้นคงไม่มีผมในตอนนี้ โค้ชคนที่สองโค้ชวิริยะ อยากขอบคุณแกมากๆเหมือนกัน เพราะแกทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ แกบอกผมว่าภูมิใจในตัวผม ที่ทำมาได้ถึงขนาดนี้“
และเป้าหมายต่อไปของ เบิร์ด วีรยุทธ ก็คือการมุ่งสู่สถิติระยะ 200 เมตรต่อไป ซึ่งตัวเขารู้สึกว่าเป็นระยะที่ถนัด และทำได้ดี ควบคู่ไปกับตามติดทีมชาติชุดใหญ่ พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยการขอบคุณตัวเองที่สู้มาจนถึงวันนี้ และไม่เลิกวิ่งไปเสียก่อน จนทำได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนั้นยังขอบคุณกองเชียร์ โดยเฉพาะชาวพัทลุง ที่ให้ให้กำลังใจเขามาตลอดตั้งแต่เด็ก โดยหลังจากนี้เบิร์ดและเพื่อนร่วมทีม จะมีการลงแข่งรายการนักเรียนอาเซียนที่ประเทศเวียดนาม เป็นรายการต่อไป
TAG ที่เกี่ยวข้อง