เปิดเบื้องหลัง คบเพลิง-เหรียญรางวัล โอลิมปิก โตเกียว 2020

อย่างที่หลายคนคงทราบกันแล้วว่า ในปี 2020 นี้ ประเทศญี่ปุ่นจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ครั้งที่ 32 ในชื่อว่า โตเกียว 2020 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2563 และได้มีการเปิดตัวเหรียญรางวัลกับคบเพลิง ที่ล้วนแต่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นออกมาอย่างชัดเจน รวมทั้งได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างมาก

สำหรับ คบเพลิงโอลิมปิกปี 2020 นี้ได้แรงบันดาลใจจาก “ดอกซากุระ” ดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น และถูกออกแบบภายใต้แนวคิด ความหวังส่องทางให้เรา (Hope Lights Our Way) โดยรูปทรงของคบเพลิงเป็นกระบอกคบเพลิง 5 ด้าน เปรียบได้ดั่ง "กลีบดอกซากุระ 5 กลีบ" แต่ละอันจะเชื่อมต่อกันโดยจุดศูนย์กลางของคบเพลิงจะทำหน้าที่ให้เกิดแสงสว่างเป็นเปลวไฟขึ้นจากปฏิกิริยาทางเคมี ลักษณะเดียวกับไฟฉาย โดยเกิดจากสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางซึ่งจะให้ความสว่างเป็นโทนสีสองสีจากเทคนิค "ukiyo-e" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "Fukibokashi"

นอกจากกระบอกคบเพลิงดอกซากุระ 5 กลีบแล้ว การผลิตตัวแท่งคบเพลิงใช้เทคนิคเดียวกับการผลิตรถไฟหัวกระสุน “ชินคันเซ็น” ของญี่ปุ่น ทำจากอลูมิเนียมที่ถูกทิ้งจากซากของบ้านพักชั่วคราวผู้ประสบภัยพิบัติหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวสึนามิครั้งใหญ่ เมื่อปี 2011 เป็นเหมือนการ “ชุบชีวิต” เพราะวัสดุเหล่านี้เคยได้ช่วยคนในการสร้าง “ชีวิตใหม่” มาแล้ว โดยนำมาใช้ถึง 30% ของวัสดุทั้งหมด

ต่อมาคือเหรียญรางวัลที่ทำจากขยะ โดยทางคณะกรรมการผู้จัดการนำ “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” จากโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิทัล แล็ปท็อปเก่า รวมถึงเกมพกพา มาผลิตเป็น “เหรียญรางวัลนักกีฬา” ทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง โดยร่วมกับหน่วยงานรัฐท้องถิ่นโตเกียว เริ่มต้นรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำมารีไซเคิล ตั้งแต่ปี 2017 นอกจากนั้นประชาชนชาวญี่ปุ่นได้นำโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ใช้แล้ว มามอบให้ด้วย

เหรียญรางวัลเหล่านี้จะถูกผลิตออกมาทั้งหมด 5,000 เหรียญ ซึ่งเหรียญทองแดงจะถูกผลิตเสร็จเป็นอันดับแรก ตามด้วยเหรียญทอง และเหรียญเงิน