29 กุมภาพันธ์ 2567
การวิ่งเป็นกีฬาชนิดแรกในชีวิต โดยมีแรงบันดาลใจจากเพื่อนสนิท จุดเริ่มต้นจากสระพระพิรุณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน สู่นักวิ่งหญิงแถวหน้าของประเทศไทย นี่คือ เรื่องราวของน้องจี้ สโรชา ศิลประสพ สาวตัวเล็ก ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยแพสชั่น
ก่อนจะมาเป็นนักวิ่งมาราธอนแถวหน้าหญิงของประเทศไทย จีจี้เล่าว่าก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอะไรมาก่อน กระทั่งเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง จากคนที่น้ำหนักตัวเยอะ เปลี่ยนตัวเองจนสวยขึ้น บุคลิกดีขึ้นจากการวิ่ง ทำให้จี้สนใจและอยากเปลี่ยนตัวเองได้เหมือนกับเพื่อน
“สมัยแรกเริ่ม 400 เมตรก็เหนื่อยมากค่ะ แต่เห็นเค้าวิ่งแล้วสวยขึ้น ก็เลยสนใจ แล้วตอนนั้นวิชาพละมหาลัยจะจัดงานวิ่ง ถ้าเข้าร่วมจะได้คะแนนพิเศษ ก็มีให้เลือก 3 โล 5 โล 10 โล หนูก็เลยลง 5 โล เป็นครั้งแรกในชีวิต ตั้งใจซ้อมที่สระพระพิรุณที่มหาลัย รอบละ 400 เมตรทุกวัน”
และการลงแข่งงานวิ่งครั้งแรกของจีจี้ก็ได้รับรางวัลทั้งจี้และเพื่อน เธอเล่าว่า วันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตั้งเป้า และสัญญากับเพื่อนว่าปีหน้าจะมาอีก จากนั้นก็มาแข่งวิ่งงานของมหาวิทยาลัยต่อเนื่องสามปี จนถึงจุดที่เพื่อนย้ายไปอยู่ต่างประเทศ
“พอเพื่อนไม่อยู่หนูก็ยังวิ่งต่อนะ แต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยกับการวิ่ง เพราะมันเป็นกีฬาแรกและกีฬาเดียวที่หนูเล่น ช่วงแรกยังต้องหาเพลงมาฟัง จนวันนึงรู้สึกเสพติด กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต พอไม่วิ่งก็เหมือนขาดอะไรไป”
จากจุดนั้นผ่านไปประมาณหกเดือน จี้ก็เปลี่ยนความคิดและรู้สึกอยากวิ่งทุกวัน ในตอนนั้นการวิ่งก็กลายเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับแฟน ซ้อมวิ่งด้วยกัน และไปแข่งงานวิ่งในกทม.และต่างจังหวัดด้วยกัน และในที่สุดก็ได้พบกับโค้ชคนแรก ที่สนามโรงพยาบาลกองทัพเรือ
ย้อนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน หนึ่งในทีมวิ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากในกรุงเทพ คือทีมวิ่งสมอทอง ซึ่งซ้อมประจำอยู่ที่สนามกีฬาโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้จี้มีโปรแกรมการซ้อมแบบจริงจัง และได้พบกับโค้ชคนแรกคือ “เจ็กเบ๋” แห่งทีมสมอทอง
“ตอนนั้นมีความสุขมาก ถึงบ้านหนูจะไกลถึงบางแค แต่ก็ไปวิ่งทุกวัน มีเพื่อนคือน้องมล ซึ่งเค้าเก่งมาก พอเข้าโปรแกรมก็ยิ่งวิ่งดีขึ้น ติดถ้วยมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น แฮปปี้ด้วยวิ่งเร็วด้วย ตอนนั้นเป้าหมายหนูมุ่งไปที่ 10 กิโลก็ซ้อมอยู่สองปี จนเข้าปีที่สามก็เริ่มแข่งฮาล์ฟมาราธอน”
สนามที่จีจี้เลือกคือสนามที่เป็นจุดเริ่มต้นในการวิ่งของเธอ คือมหาวิทยาลัยเกษตรกำแพงแสน กลายเป็นสนามฮาล์ฟมาราธอนแรกที่ทำสถิติได้ดี 1 ชั่วโมง 57 นาที หลังจากวันนั้นเธอก็มีเป้าหมายกับการวิ่ง ในการทำลายสถิติเดิมของปีที่ผ่านมา “ตอนวิ่งก็รู้สึกทรมานมากนะคะ แต่ก็ทำได้ และรู้สึกว่าอยากแข่ง 21 ให้บ่อยขึ้น ก็ทำให้หนูตั้งเป้ากับตัวเองว่าจะทำลายสถิติให้ได้ทุกปี”
เมืองไทย-เชียงใหม่มาราธอน เป็นหนึ่งในสนามที่นักวิ่งในประเทศไทยเลือกใช้เป็นสนามแข่งมาราธอนแรก เช่นเดียวกับจีจี้ในตอนนั้นตั้งเป้าว่า ต้องวิ่งด้วยเวลาต่ำกว่า 4 ชั่วโมง “ตอนนั้นตั้งเป้าว่าต้องดีด้วย ก็ตั้งใจซ้อม แล้วก็เข้าใจว่าเราซ้อมถึงแล้ว สุดท้ายมาราธอนมันก็ไม่ง่ายค่ะ มันยากมาก“
จี้เล่าว่าช่วงกิโลที่ 35 กล้ามเนื้อรู้สึกไม่ไหวแล้ว ใจคิดว่าจะไม่วิ่งมาราธอนอีกแล้ว จนเข้าเส้นชัยก็น้ำตาไหล แต่ก็ทำได้ตามเป้าต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ”ก็ทำได้นะคะ แค่รู้สึกเหนื่อยมาก ตอนนั้นตั้งใจเลยค่ะว่าจะไม่ลงมาราธอนอีก แล้ว สุดท้ายหกเดือนหลังจากนั้น ก็ลงสมัครมาราธอนใหม่ (หัวเราะ)”
จากวันนั้น จี้กลับไปแก้ไขจุดอ่อนของตัวเองเพื่อไปแก้มือใหม่ และสนามมาราธอนถัดมาเวลาก็ดีขึ้นทุกครั้ง ล่าสุดคือ โคราช มาราธอน 2023 ทำเวลาได้ 3 ชั่วโมง 31 นาที และเส้นทางมาราธอนต่อไปของเธอ คือ เวิล์ด มาราธอน เมเจอร์ครั้งแรก ที่โตเกียว มาราธอน ในปีนี้ (2024)
มีนาคมนี้โตเกียวมาราธอน 2024 จะกลายเป็นสนามที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของจีจี้ เธอเล่าว่าตั้งใจซ้อมหนักมาก ทุ่มเทเพื่อโตเกียว มาราธอน ช่วงการซ้อมที่ผ่านมาทำให้ได้สถิติใหม่ทั้งระยะ 10 กิโลเมตร และ 21 กิโลเมตรเป็นเพราะร่างกายแข็งแรงขึ้น จากการซ้อมมาราธอน
“ตอนนี้เก็บระยะเดือนละประมาณ 350 กิโลค่ะเพื่อความมั่นใจ ตั้งใจว่าเดือนนี้มกราคมอาจจะถึง 400 กิโล สิ่งที่เปลี่ยนจากมาราธอนแรก คือทุกอย่างเลย หนูเก็บระยะมากขึ้น เวท กินอาหาร ยืด เพราะรู้ว่าซ้อมเยอะก็เสี่ยงเจ็บ ต้องให้ความสำคัญเรื่องอื่นด้วย มีบทเรียนจากมาราธอนแรกค่ะ”
ช่วงระหว่างเตรียมตัว จี้ยังได้รับโอกาสพิเศษ ในการเป็นนักกีฬาของแบรนด์เอสิก (ASICS) ไปร่วมแข่งขันระดับนานาชาติ ที่ประเทศมาเลเซีย โดยในตอนนั้นเพื่อนร่วมทีมคืออดีตนักกีฬาทีมชาติหลายคน
“ตอนแรกก็ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะคนที่ไปกับเราคืออดีตทีมชาติ รู้สึกว่าเค้าให้เกียรติ ทุกคนน่ารักมาก หนูคิดว่าคงไม่มีโอกาสจะได้ทำแบบนี้อีก ทั้งได้วิ่งและได้ถ่ายแบบนอกรอบกับแบรนด์แอมของแต่ละประเทศ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ”
เธอบอกว่าไม่เคยคิดว่าการวิ่งจะพาเธอมาไกลขนาดนี้ และ ไกลกว่าที่คิดเอาไว้มาก “ไม่เคยกล้าคิดเลยค่ะว่าจะมาไกลขนาดนี้ และดีใจที่หนูเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่น เป็นเกียรติที่คนอื่นชื่นชม ถือว่า complete ในเป้าหมายและเกินเป้าไปมาก“
จาก 5 กิโลเมตรแรก สู่เป้าหมายทำสถิติระยะต่างๆ ของตัวเอง มาไกลจนถึง เวิลด์ มาราธอน เมเจอร์ วันนี้จีจี้ สาวน้อยตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ได้กลายเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจของคนมากมาย “ต้องขอบคุณตัวเองที่วันนั้นไม่ได้หยุดแค่ 5 กิโลเมตร และขอบคุณครอบครัว แฟนที่ซัพพอร์ตจนมาไกลขนาดนี้ และขอบคุณทุกคนที่เห็นการซ้อมของเราแล้วติดตาม ก็อยากให้สุขภาพดีไปด้วยกัน วิ่งแล้วจะได้สถิติหรือไม่ ก็ได้สุขภาพที่ดีกลับมาค่ะ“
TAG ที่เกี่ยวข้อง