stadium

วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น กับ ออลอิงแลนด์ และ โอลิมปิก ที่ใฝ่หา

13 มีนาคม 2563

2019 นับว่าเป็นปีที่เต็มไปด้วยขวากหนามสำหรับวิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น นักแบดมินตันชาวเดนมาร์กวัย 26 ปี เพราะเจออาการบาดเจ็บเล่นงานจนพลาดทั้งการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปและชิงแชมป์โลก ทำให้อันดับโลกของเขาหลุดจากท็อป 6 ในรอบเกือบ 4 ปี วิคเตอร์ยอมรับว่าเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและหวังว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุด ขอบคุณแฟนๆสำหรับกำลังใจที่มอบให้กับเขา 

 

 

เข้าฤดูกาล 2020 ยักษ์ใหญ่จากแดนโคนมออกสตาร์ทด้วยการคว้ารองแชมป์มาเลเซีย มาสเตอร์ส (แพ้ เคนโตะ โมโมตะ ในรอบชิงชนะเลิศ), เข้ารอบรองชนะเลิศอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส, คว้าแชมป์ทีมยุโรป โดยไม่เสียแม้แต่เกมเดียวตลอด 5 แมตช์ที่ลงแข่งขัน ต่อเนื่องจนถึงการคว้าแชมป์สเปน มาสเตอร์ส  โดยในรอบชิงชนะเลิศเอาชนะ เจ้าวิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ของไทยเราไป 2 เกมรวด (21-16, 21-13) ทำให้ผลงานของเขาในปีนี้มาเป็นอันดับ 1 ของทัวร์เลยทีเดียว

 

ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เป็นโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็น 1 ในประเทศที่ได้รับผลกระทบ แต่การแข่งขันแบดมินตันที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง ออลอิงแลนด์ โอเพ่น ยังคงดำเนินการแข่งขันต่อไป ซึ่งนับว่าเป็นอีก 1 รายการที่แอ็กเซลเซ่นยังไม่เคยได้เลย และหวังจะเป็นนักหวดเดนมาร์กต่อจาก ปีเตอร์ เกด เมื่อปี 1999 ที่คว้าแชมป์ในรายการนี้ หลังทำได้ใกล้เคียงสุดเพียงแค่รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว หลังแพ้ เคนโตะ โมโมตะ ไปในรอบชิงชนะเลิศ 

 

 

นอกจากนี้อีก 1 รายการที่เขาเฝ้าถวิลหาไม่แพ้กันนั่นคือ โอลิมปิกที่โตเกียวกลางปีนี้  ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนที่ริโอ เขาแพ้ เฉินหลง ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะเอาชนะนักหวดระดับตำนานอย่าง หลิน ตัน ในรอบชิงที่ 3 คว้าเหรียญทองแดงไปครอง ซึ่งนับว่าเป็นนักหวดเดนมาร์กในรอบ 24 ปี ที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกในประเภทชายเดี่ยว ต่อจาก เอริค โฮเยอร์ ลาร์เซ่น (ประธานสหพันธ์แบดมินตันโลกคนปัจจุบัน) ที่คว้าเหรียญทองในประเภทดังกล่าวที่แอตแลนต้า ปี 1996 (ปีเดียวกับที่สมรักษ์ คำสิงห์ คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิก) ซึ่งนับว่าเป็นเหรียญทองเดียวที่ทัพแบดมินตันเดนมาร์กคว้ามาได้ในประวัติศาสตร์โอลิมปิกที่ผ่านมาด้วย

มือ 1 ของโลก (อันดับ 7 ของโลก ณ วันที่ 12 มี.ค.), แชมป์โลก, แชมป์ยุโรป เขาผ่านมันมาแล้ว หากเพิ่ม ออลอิงแลนด์ และ โอลิมปิก เข้าไปอีก 2 รายการ ก็นับว่าเป็นการทำลายไมล์สโตนในอาชีพของตัวเองที่ดูยิ่งใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว (หากการแข่งขันไม่เลื่อนหรือยกเลิกไปเสียก่อน) 

เราก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้โรคร้ายนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด เพื่อที่นักกีฬาทั่วโลกจะได้กลับมาสร้างความสุขให้แฟนๆกีฬาอย่างเราได้ตามลุ้นตามเชียร์กันต่อไป


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

Kapeebara

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose