เคล็ดลับความเยือกเย็นของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์

“เคล็ดลับที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ คือ พยายามมองตัวเองด้อยกว่าเค้า มันไม่กดดัน และไม่เครียด แถมมีแรงฮึดอยากเอาชนะคู่แข่งให้ได้” 

“ยิ่งได้เจอกับคนเก่งๆ ก็เป็นโอกาสพัฒนาตัวเองด้วย แม้สุดท้ายผมจะแพ้ แต่ก็ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาด ปรับปรุงให้ดีขึ้น” 

คำพูดของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกแบดมินตันชายเดี่ยวชาวไทยคนล่าสุด สัมผัสได้ถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน และพร้อมที่จะเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

ในครั้งนี้ มาฟังมุมมองของนักตบลูกขนไก่อันดับ 4 ของโลก ว่ามีวิธีคิดอย่างไร? ถึงทำให้ตัวเองเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ในทุกการแข่งขัน รวมถึงความรู้สึกที่จะได้ไปแข่งขันกีฬา “เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19” ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นครั้งแรกในชีวิต

วิธีที่ทำให้จิตใจสงบก่อนลงแข่ง?

“ก่อนลงแข่งทุกครั้ง ผมจะยืนชิดกับกำแพง และหลับตา จะใช้เวลาตรงนี้รวบรวมสมาธิให้ได้มากที่สุด พอเดินเข้าสู่สนาม ก็จะเจอทั้งคนดู เจอทั้งกองเชียร์ แน่นอนว่าบางทีก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน หรือถ้าในเกมการแข่งขัน ถ้าเราโดนนำ โดนกองเชียร์เจ้าถิ่นกดดัน จิตใจเราจะยังนิ่งพอที่จะรับมือกับมันได้ขนาดไหน 

การเอาชนะคู่แข่งในเกมกีฬา วิวมองว่าต้องเล่นอย่างดุเดือด หรือ เยือกเย็น? 

“เยือกเย็นแน่นอนครับ เพราะเราต้องมีสมาธิอยู่กับเกมตลอดเวลา ถ้าใจร้อน หรือ สมาธิหลุดแม้แต่วินาทีเดียว มันก็แทบจะทำให้เราหลุดยาวเลย สำหรับผมใครมีสมาธิมากกว่า นิ่งกว่า ก็มีโอกาสชนะครับ 

“วิว” ศึกษาคู่แข่งอย่างไร ถึงสามารถเอาชนะได้?

“โอ้ว! ดูจากยูทูป (Youtube) ตลอดเลยครับ ส่วนตัวผมดูคลิปแบดมินตันค่อนข้างบ่อย ชอบดูทั้งนักแบดระดับโลกที่ยังเล่นอยู่ และ เลิกเล่นไปแล้ว ก็พยายามศึกษา นำวิธีการเล่นต่างๆ มาปรับใช้กับตัวเราให้ดีขึ้น”

“ยิ่งเป็นคู่แข่งที่ผมกำลังจะเจอ ก็จะดูหลายคลิปวิดีโอเลย ดูซ้ำๆ ดูบ่อยๆ ผมจะดูก่อนแข่ง 1 วัน จะได้มีเวลาเยอะๆ ได้เห็นสไตล์การเล่น แท็คติกต่างๆ รวมถึง จุดแข็ง และ จุดอ่อน” 

คำว่า “ใจเย็น” มีความสำคัญกับนักกีฬามากขนาดไหน? 

“สำคัญมากๆครับ จะเห็นได้จากนักกีฬาระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ เค้ามีความใจเย็น มีความสุขุม รู้ว่าต้องเล่นยังไง โจมตีคู่แข่งด้วยวิธีไหน บางครั้งเราอาจจะเห็นนักกีฬาบางคนที่ดูในสนามค่อนข้างดุดัน แต่ถ้าดูดีๆ เบื้องหลังของชัยชนะ ก็มีความใจเย็นซ่อนอยู่ ที่เต็มไปด้วยความสุขของการเล่น มีความคิดสร้างสรรค์ว่าจะทำอย่างไร   

เรื่องของความใจเย็น ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ฝึกได้ เราทำอย่างไร?

“คือจริงๆที่ทุกคนเห็นผมในสนาม ไม่ใช่เพราะใจเย็นหรอกครับ แต่ผมเหนื่อยต่างหาก! (หัวเราะ) เราต้องใจเย็น และ มีสมาธิอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโค้ชก็จะกระตุ้นให้เรามีสมาธิด้วยเช่นกัน ช่วงไหนที่ผมหลุด โค้ชก็จะดึงสมาธิให้เรากลับคืนสู่เกมเร็วที่สุด คือถ้าเราเป๋ไปเรื่อยๆ คุมอารมณ์ไม่ได้ แต้มก็จะห่างออกไป กลายเป็นเราที่เป็นผู้ตาม แถมเหนื่อยเพิ่มอีก และอาจจะพลาดถึงกับแพ้ได้เลย    

ระหว่างเจอคู่ต่อสู้ที่ ดุดัน หรือ เยือกเย็น แบบไหนรับมือยากกว่ากัน? 

“ชอบเจอคู่ต่อสู้ที่ดุดัน เพราะเค้าจะเร่งตัวเอง จนบางทีก็จะใจร้อน ไม่มีสติควบคุมตัวเอง จนทำให้รูปแบบเกมผิดพลาดง่ายๆ ส่วนการเจอคู่ต่อสู้ที่ใจเย็น ถือเป็นงานที่ยาก เพราะคู่แข่งจะไม่ลนลาน คุมสติได้ดีมาก พูดง่ายๆ ทุกครั้งที่ตีออกไป ต้องชัวร์ที่สุด”

“ยกตัวอย่างง่ายๆ คนที่ตีดุดัน ก็คงเป็น แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง จากอินโดนีเซีย สไตล์คือบุกหนักมาก มีความเร็วด้วย แต่ถ้าใจร้อนเมื่อไหร่ ก็จะชอบเสียแต้มง่ายๆ ส่วนคนที่ใจเย็น และเล่นด้วยยาก คงเป็น หลี่ ชี่เฟง จากจีน เป็นคนที่สุขุมมาก และพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดจนถึงวันนี้” 

เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเรามากๆ ทำยังไง? 

“ก็เล่นไปตามวิธีของเราครับ หากสุดท้ายถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราเจอกับคู่แข่งที่เหนือกว่าจริงๆ ก็นำจุดอ่อนมาพัฒนา แก้ไขให้ดีขึ้น ผมมองว่าการเล่นกับคนที่แข็งแกร่งกว่าเรามากๆ รู้สึกสนุกนะ ไม่กดดัน ท้าทายด้วย”  

วิธีจัดการความกดดันของ “วิว” คืออะไร?

“ก็ถ้าเจอรุ่นเดียวกัน หรือเจอคนที่เหนือกว่า ผมจะพยายามมองตัวเองด้อยกว่าเค้า เพราะถ้าเรากดดันในเกมเยอะ ก็จะเล่นไม่เป็นตัวเอง เกร็งไปหมด แต่ถ้าปรับความคิดตัวเองว่า เราไม่เก่งเท่าเค้า ผมว่ามันดีนะ คือมันช่วยให้ไม่เครียดด้วย แถมมีแรงฮึด อยากเอาชนะคู่แข่งให้ได้” 

เคยปล่อยตัวเองให้เล่นไปตามอารมณ์บ้างมั้ย? แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร? 

“มีบ้างนะครับ แต่ผลออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเราใช้อารมณ์เป็นตัวนำ ไม่ได้ใช้สมาธินำ ก็ทำให้รูปแบบเกมมันปะติดปะต่อไม่ได้ บวกกับความคิดในตอนนั้น มันมีแต่อารมณ์ล้วนๆเลย” 
 

แล้วเรื่องอุณหภูมิในสนามแข่ง มีผลกับการเล่นมากน้อยแค่ไหน? 

“ไม่มีนะครับ เพราะถ้าอบอุ่นร่างกายแล้ว เวลาลงสนามระบบหายใจก็ไม่มีปัญหาอะไร แค่อาจมีอาการเหนื่อยเฉยๆ จากการตีแรลลี่ยาวๆกับคู่ต่อสู้แค่นั้นเลยครับ” 

ถ้ามีคนเดินมาถามว่า อยากเก่งแบบ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

“อันดับแรกของนักกีฬา ก็ต้องมีความตั้งใจ มีเป้าหมาย มีความอดทน มีระเบียบวินัย และตรงต่อเวลา คือคนที่จะประสบความสำเร็จได้แชมป์ ต้องมีองค์ประกอบเหล่านี้อยู่ในตัวทั้งหมด ขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ก็อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ”  

วิธีรักษาฟอร์มการเล่นให้ติด 5 อันดับแรกของโลกยาวๆ?

“หลักๆคือเรื่องสภาพร่างกาย สมมติว่าถ้าผมแข่งรายการนี้ แล้วเข้าชิง และได้แชมป์ อีกรายการนึงผมจะถอนเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากแข่งนะครับ แต่เราต้องประเมินร่างกายตัวเองด้วย เพื่อจะได้มีเวลาฟื้นฟู และฝึกซ้อม ถ้ายิ่งไปฝืน มันก็ยิ่งเจ็บ เจ็บมาก็ต้องรักษาตัวนาน”

“วิว” เป็นแฟนบอล “หงส์แดง” ตัวยง เราสามารถนำแนวคิดของ ลิเวอร์พูล มาปรับใช้อะไรกับการเล่นแบดมินตันได้บ้าง?

“สำหรับทีม ลิเวอร์พูล ถ้าเกมไม่จบ ก็คือยังไม่แพ้ ตราบใดที่ยังไม่หมดเวลา ก็ยังมีโอกาสพลิกชนะอยู่ ผมเอาจุดนี้มาปรับใช้กับการเล่นแบดมินตันของตัวเอง”

“ซึ่งก็เหมือนเกมชิงแชมป์โลก นัดชิง ที่ผมเสียเกมแรกไปก่อน แต่ตอนนั้นผมคิดอยู่ตลอดว่า เรายังไม่แพ้นี่ ก็ก้มหน้าก้มตาสู้ต่อไป พอมาได้เกมที่ 2 ก็เลยต่อยอดสู้จนสุดท้ายเป็นผู้ชนะ”  

แฟนแบดมินตันบอกว่า ไม่อยากดู “วิว 3 เกม” ดูทีไรใจหายใจคว่ำทุกที

“ต้องอธิบายก่อนว่า ทำไมถึงต้องเล่น 3 เกม คือสนามแบดมินตันนะครับ ถ้าสนามใหญ่ๆ รายการใหญ่ๆ สนามมันจะมีลม ซึ่งจะมีฝั่งนึงได้เปรียบ ฝั่งนึงเสียเปรียบ ฝั่งนึงคือจะตียังไงก็ได้ไม่ออก แต่อีกฝั่งแค่ตีนิดเดียวลูกก็ออกได้แบบง่ายๆ เพราะว่าลมมันพัด” 

“ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากเล่น 3 เกมหรอก เพราะมันเหนื่อย และใช้เวลานาน แต่ด้วยรูปแบบสนาม มันก็มีฝั่งนึงที่เสียเปรียบมากๆ ทำให้เราไม่สามารถควบคุมเกมได้” 

“อย่างเกมนัดชิงแชมป์โลกกับ โคได นาราโอกะ จริงๆกลางเกม 2 ผมก็เริ่มหมดแล้ว แต่มาฟื้นตอนท้ายๆ ซึ่งอยู่ดีๆก็มาเคาะได้แต้ม ทำให้แรงเรากลับมา บวกกับทางโคได ก็เริ่มใจร้อนขึ้น เร่งตัวเอง ใช้พละกำลังมากเกินไป เกมที่เคยเป็นแผนก็เสียหมด” 

เอเชียนเกมส์ครั้งแรกของ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มีความหมายกับตัวเองแค่ไหน?

“เอเชียนเกมส์ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ผมได้ยินชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ และสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ ใครได้ไปแข่ง ถือเป็นเกียรติยศในฐานะนักกีฬาคนนึง”

“มันเป็นเอเชียนเกมส์ครั้งแรกของผม มันเป็นรายการใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ความรู้สึกตอนนี้คือตื่นเต้น ก็จะพยายามทำผลงานให้เต็มที่ ถามว่าอยากได้เหรียญมั้ย ผมอยากได้นะ”

“วิว” ไปแข่งเอเชียนเกมส์ครั้งแรก ในฐานะแชมป์โลก แน่นอนว่าสายตาจับจ้องมาที่เราแน่นอน กดดันกับตรงนี้รึเปล่า?  

“คือต้องบอกว่า รายการชิงแชมป์โลกมันก็เป็นรายการนึง พอผมได้แชมป์ วันรุ่งขึ้นก็คือรายการใหม่แล้ว เอเชียนเกมส์สำหรับผม ก็คือการเริ่มต้นนับศูนย์ใหม่ มาจากคนที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีอะไรเลย ก็จะเล่นได้แบบสบายใจ แน่นอนไม่ว่ารายการไหน มันก็มีความกดดันทั้งนั้น”  

ฝากอะไรถึงแฟนกีฬาในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้หน่อยครับ?

“ฝากติดตามผลงานของผมในเอเชียนเกมส์ ซึ่งผมจะลงแข่งในประเภททีม และประเภทบุคคลด้วย เป็นกำลังใจให้ผมเยอะๆนะครับ เพราะทุกกำลังใจของแฟนๆ มันเป็นความสำเร็จของผมครับ”  

สำหรับศึก “เอเชียนเกมส์” ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มาลุ้นไปพร้อมๆกันว่า  “วิว” จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน? แต่มั่นใจได้เลยว่า “หางโจว 2022” ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน #ศึกนี้มีหนาว แน่นอน