stadium

ล้วงใจ 3 สัมพันธ์ “นุช-เอ-แป้น” และการปิดทองหลังพระของตำแหน่งลิเบอโร่

28 สิงหาคม 2566

ในกีฬาวอลเลย์บอลสปอตไลต์มักจะส่องลงมาที่ผู้เล่นในเกมรุกอย่างตำแหน่งหัวเสามากกว่าใครเสมอ ด้วยบทบาทหน้าที่ที่ถูกกำหนดมาให้เป็นตัวทำแต้มหลัก ซึ่งสวนทางกับลิเบอโร่ ตำแหน่งที่มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวนั่นคือเล่นเกมรับ แต่ทว่าในปัจจุบันความเหนียวแน่นในการเล่นเกมรับถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลูกยางสาวไทยล้มยักษ์ใหญ่ในระดับโลกได้เสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้ทีมไม่เสียคะแนนแล้วยังเป็นจุดเริ่มต้นในการทำแต้มของทีมอีกด้วย

 

วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยแบบสบายๆ กับ 3 สาวลูกยางทีมชาติไทยที่เป็นลิเบอโร่อาชีพอย่าง "แป้น" ปิยะนุช แป้นน้อย, "เอ" สุพัตรา ไพโรจน์ และ "นุช" สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม ผู้เล่นในตำแหน่งหัวเสาที่เคยรับบทลิเบอโร่จำเป็นในทีมชาติมาแล้ว มาร่วมพูดคุยกันถึงความสำคัญ เทคนิคของการเล่นในตำแหน่งนี้ รวมไปถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 3 สาวและเป้าหมายในปีนี้ที่มีศึกใหญ่ในรายการคัดโอลิมปิก 2024 และเอเชียนเกมส์ 2022 รออยู่ในช่วงปลายปี

 

 

StadiumTH : ทั้ง 3 คนรู้จักกันได้ยังไง

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : หนูโตสุด รู้จักกับเอก่อนเพราะว่าอายุไล่เลี่ยกัน รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนประถมเพราะเคยแข่งด้วยกัน พอขึ้นมัธยมก็ได้เรียนที่เดียวกัน ส่วนนุชเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนอายุห่างกันประมาณ 3 ปี 

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : เหมือนตอนนั้นหนูเด็กมาก ยังไม่ค่อยสนิทกันกับพี่ ๆ ทั้ง 2 คน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน แต่ก็ค่อย ๆ เริ่มสนิทกันมากขึ้นช่วงแข่งวอลเลย์บอลลีก

 

 

StadiumTH : จุดเริ่มต้นของการเล่นในตำแหน่งลิเบอโร่

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : จริง ๆ หนูเริ่มต้นเล่นในตำแหน่งตัวตี เพิ่งจะมาเปลี่ยนเป็นลิเบอโร่ตอนที่ถูกเข้าเล่นให้ทีมชาติแล้ว ก็ได้โอกาสจากอาจารย์อ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร, อาจารย์ด่วน ดนัย ศรีวัชรเมธากุล และอาจารย์ยะ ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ซึ่งในปีนั้นเป็นช่วงที่พี่นา วรรณา บัวแก้ว พักจากการแข่งไป 1 ปีพอดี ก็เลยได้เข้ามาเป็นลิเบอโร่เต็มตัว

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : ของหนูเริ่มเล่นตั้งแต่สมัยเรียน ม.1 ตอนแรกยังเล่นในตำแหน่งทั่วไปไม่ใช่ลิเบอโร่ แต่ว่าในรุ่นมี 7 คนพอดี แล้วเพื่อนเล่นไม่ได้เลยเปลี่ยนให้หนูมาเล่น พอขึ้นมาเรียน ม.2 อาจารย์เห็นหนูเป็นคนตัวเล็กเลยจับให้มาเล่นลิเบอโร่ในรุ่นพี่วาฬ

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : ส่วนหนูเล่นในตำแหน่งหัวเสาไม่ได้เป็นลิเบอโร่ แต่เป็นเหมือนตัวหัวเสาที่แบบรับเสิร์ฟได้ดี แต่ว่าตอนแข่งเนชั่นส์ ลีกล่าสุด มีโอกาสได้เล่นลิเบอโร่จำเป็น จากเหตุการณ์ที่พี่วาฬมีอาการป่วยลงแข่งไม่ได้ แล้ววันนั้นหนูใส่ชุดแข่งธรรมดาตามปกติ แต่ผู้จัดการทีมโทรมาบอกว่าพี่วาฬไม่น่าจะไหว เลยให้หนูใส่เสื้อลิเบอโร่แทนพี่วาฬ ตอนแรกก็คิดว่าคงให้ใส่เสื้อไว้เฉย ๆ แต่โค้ชบอกก่อนแข่งหน้าสนามว่าให้ลงเล่นด้วยนะ อาจารย์มั่นใจว่าหนูรับได้ เพราะหนูเป็นตัวโค้งที่รับเสิร์ฟอยู่แล้ว ตอนนั้นไม่มีเวลาขอคำปรึกษาใครด้วย

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : ก็ได้ให้กำลังใจน้องไป บอกว่านุชทำได้นะ มีเบสิค มีสกิลอยู่แล้ว แต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ได้บอกน้องก็คือว่าเป็นลิเบอโร่นั้นห้ามเซต แอบเห็นหนึ่งลูกเหมือนกัน (ขำ)

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : จริง ๆ หนูรู้กติกาอยู่แล้วค่ะ ว่าเป็นลิเบอโร่ห้ามเซต แต่ก็มีลืมตัวเพราะตอนเราต่อบอลด้วยการเซตมาตลอด ก่อนแข่งหนูก็บอกทีมแล้วว่าถ้าเผลอไปเซตให้ ให้ตะโกนบอกกันหน่อย หรือว่าถ้าหนูเซตไปแล้วให้ตะโกนบอกคนที่จะตีหน่อยว่าอย่าตี

 

 

StadiumTH : หัวใจสำคัญของการเล่นตำแหน่งลิเบอโร่

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : สิ่งสำคัญคือการเล่นเกมรับและการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม เพราะเกมรับเป็นส่วนสำคัญของการแข่งกับทีมระดับโลก ซึ่งทีมเรารูปร่างเสียเปรียบคู่แข่ง จุดนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับลิเบอโร่

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : ลิเบอโร่เป็นตำแหน่งที่เล่นเกมรับเพียงอย่างเดียว มีหน้าที่ต้องคอยซัพพอร์ทเพื่อนให้ได้ คอยตามเก็บบอลที่บล็อกมา ต้องพยายามรับให้ได้เพื่อช่วยทีมให้ได้มากที่สุด

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : ถึงแม้ว่าลิเบอโร่จะไม่ได้เป็นตัวทำแต้ม แต่ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของทีม เพราะถ้าหากทีมรับบอลรับไม่ได้เลย เราก็จะไม่ได้เล่นเกมรุกเลยเหมือนกัน ไม่ได้แม้กระทั่งต่อบอลเลยด้วยซ้ำ และอีกอย่างหนึ่งหนูมองว่าทุกวันนี้ ลิเบอโรมีส่วนสำคัญในการต่อบอลให้เพื่อนได้เล่นเกมรุกมากขึ้นด้วย

 

 

StadiumTH : ลิเบอโร่มีบทบาทสำคัญกับทีมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนยังไง

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : เมื่อก่อนในทีมอาจจะมีลิเบอโร่แค่คนเดียว แต่สมัยนี้จะมี 2 คน ซึ่งพอมี 2 คนแล้วมันแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กันและกันมากกว่า อย่างเช่นเอเขามีจุดเด่นเรื่องการรับตบก็จะช่วยทีมในส่วนนี้ ซึ่งต่างจากหนูที่ถนัดรับเสิร์ฟมากกว่า แต่ถ้าวันไหนเรารับเสิร์ฟไม่ได้เลย ก็ยังมีเอคอยซัพพอร์ท มันจะมีความสบายใจมากขึ้นลดความกดดันลงไปได้ในวันที่เราเล่นไม่ออก

 

 

StadiumTH : ความสุขของการเล่นตำแหน่งลิเบอโร่คืออะไร

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : ความสุขหรอ? ถ้าลูกไหนมันรับยากมาก ๆ แล้วเรารับได้ ส่งต่อให้เพื่อนร่วมทีมตบเป็นแต้มได้ นั่นแหละคือความสุขของผู้เล่นในเกมรับ

 

 

StadiumTH : เอ มักจะเป็นคนที่โดนบอลอัดกระเด็นบ่อยมาก มีวิธีรับมืออย่างไร

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : หนูเป็นคนถนัดจับมือล่าง ทำให้เวลาบอลลอยมาสูงจะยกมือขึ้นมาไม่ทันเลย ทำให้บอลมักอัดเข้าหน้าตลอด ซึ่งตรงนี้โค้ชก็คอยช่วยซ้อมให้เยอะอยู่เหมือนกัน เวลาซ้อมก็ตบกันแบบเต็มแรง ตอนซ้อมโดนอัดหน้าเยอะมาก ตอนโดนก็มึนเฉย ๆ แต่ไม่เจ็บ

 

 

StadiumTH : นุช ช่วยเล่าย้อนถึงตอนได้รับหน้าที่ลิเบอโร่จำเป็นใน เนชั่นส์ ลีก 2023 หน่อย ความรู้สึกก่อนลงแข่งกับระหว่างแข่งเป็นอย่างไร

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : ก่อนแข่งยอมรับว่าค่อนข้างตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นกว่าตอนเล่นเป็นตำแหน่งหัวเสาแล้วถูกส่งลงไปเปลี่ยนอีกค่ะ แต่ว่าพอเล่นจริง ๆ แล้วก็ไม่ค่อยตื่นเต้น เพื่อนร่วมทีมคอยช่วยให้เรารู้สึกสนุกเวลาอยู่ข้างในสนาม แต่ก็จะมีบางครั้งที่ลืมตัวเองไปนิดหน่อย สำหรับหนูชอบการรับบอลนะ ด้วยความที่เราไม่ใช่ตัวตีบอลแบบหวังผล ทำให้เวลาหนูลงไปแล้วถ้ารับบอล แล้วช่วยทำให้ทีมเล่นได้ไหลลื่นขึ้น ช่วยให้ทีมทำแต้มได้ก็โอเคแล้ว

 

( ดูจังหวะนี้เผลอเซตแล้วเป็นแต้มของลิเบอโร่จำเป็น https://twitter.com/por_wk/status/1675511069312425986 )

 

 

StadiumTH : วาฬกับเอ เคยมีจังหวะอยากทำแต้มเองบ้างไหม

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : ก็มีบ้างค่ะ เราต้องมีสกิลในการทำแต้มด้วย อย่างเช่นอันเดอร์สาดบ้างหรือเซตบอลสองบ้าง หรือมีบางจังหวะที่เราทำได้ ซึ่งมันจะคิดล่วงหน้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ระหว่างแข่ง ต้องคิดเร็วทำเร็ว คิดแล้วทำเลยจะเป็นแบบนั้นมากกว่า

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : หนูไม่มีค่ะ (ยิ้ม)

 

 

StadiumTH : แต่ละคนแบ่งหน้าที่ในการเล่นเกมรับกันอย่างไร

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : หนูรับลูกเสิร์ฟ ส่วนเอรับลูกตบ แต่ปกติแล้ววลาซ้อมก็คือซ้อมรวมกัน ซ้อมทุกอย่างต้องได้ทุกสกิลทั้งรับลูกเสิร์ฟและรับลูกตบ เพียงแต่ว่าจุดเด่นของเรานั้นไม่แตกต่างกัน โค้ชก็เลือกใช้ไปตามสถานการณ์

 

 

StadiumTH : ทั้ง 3 คนเคยผ่านเอเชียนเกมส์กันมาทั้งหมดแล้ว ช่วยเล่าถึงประสบการณ์ในเอเชียนเกมส์ของแต่ละคนให้ฟังหน่อย

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : ครั้งแรกปี 2010 ที่จีน ตอนนั้นหนูน่าจะเล่นเป็นตัวรับ ยังไม่มีลิเบอโร่ 2 คน หนูถูกเปลี่ยนลงไปเกมรับในแดนหลัง จำได้ว่าตอนนั้นยังเด็กมาก ๆ ความรู้สึกมีทั้งตื่นเต้นและเกร็งนิดหน่อย ด้วยความที่อายุหนูนั้นห่างกับพี่ ๆ 7 เซียนค่อนข้างมาก ยังเป็นเด็กมัธยมอยู่เลย ​ทำให้ไม่ค่อยกล้าคุย แต่พี่ ๆ ทุกคนก็คอยสอนทั้งในสนามแข่งและสนามซ้อม 

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : ครั้งแรกของหนูเล่นด้วยกันกับนุชในเอเชียนเกมส์ปี 2010 ตอนนั้นจำได้ว่าตื่นเต้นเหมือนกัน แต่มันก็มีความเสียใจ เพราะตอนนั้นเราแข่งกับเกาหลีเหนือในรอบ 8 ทีมแล้วต้องเล่นกันถึง 5 เซต ซึ่งวันนั้นยอมรับว่าตัวหนูเล่นไม่ค่อยดี ยังเป็นเด็กติดทีมไปปีแรก แล้วจังหวะเสียแต้มสุดท้ายเขาเสิร์ฟบอลมาตรงหนู แต่หนูเช็กพลาดคิดว่าบอลออก แต่บอลมันลงในเส้นกลายเป็นแต้มให้ทีมแพ้ รู้สึกว่าเสียใจมากตอนนั้นยังไม่มีประสบการณ์ จัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ แล้วก็โค้ช มาให้กำลังใจคอยปลอบบอกไม่ต้องเสียใจให้เราจำเหตุการณ์นี้แล้วเก็บเป็นประสบการณ์

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : ส่วนหนูติดทีมไปเล่นเอเชียนเกมส์ปี 2018 ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่ได้ติดทีมชาติ แล้วได้แข่งเอเชียนเกมส์เลย เป็นปีที่ประทับใจที่มากสุดเลย เพราะทีมได้รองแชมป์แพ้จีนในรอบชิงชนะเลิศ​ จุดเริ่มต้นเลยปีนั้นทีมเราไม่ชนะญี่ปุ่นเลย แต่ในรอบแรกเราเอาชนะญี่ปุ่นได้ (ทำให้ผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม) ทุกคนในทีมมีใจฟู กำลังใจมาเต็ม คราวนี้รอบรองชนะเลิศมาเจอเกาหลีใต้ก็ไม่กลัวแล้ว ทุกคนสู้สุดชีวิตสุดท้ายชนะได้เข้าชิงฯ​ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เป็นกำไรชีวิตมากๆ เพราะเป็นเอเชียนเกมส์ครั้งแรกของหนูด้วย

 

 

StadiumTH : เป้าหมายปีนี้ในฐานะทีม

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : หลังจบจากเนชั่นส์ ลีก เราทำผลงานกันได้ไม่ดี สภาพร่างกายตกลงไป ทุกคนก็พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแข่งศึกใหญ่ที่เหลือในปีนี้และโอลิมปิก 2024 รอบคัดเลือกและเอเชียนเกมส์

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : เป้าหมายเลยคือคัดโอลิมปิกให้ผ่าน เพราะด้วยอายุไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า แต่อยากทำให้ดีที่สุด เพราะสายการแข่งขันค่อนข้างหนักสำหรับเรา อยากจะเล่นให้มันสนุก เล่นให้เต็มที่มากกว่า อยากจะเอาบรรยากาศความสนุกสนานกลับเข้ามาสู่ทีมอีกครั้ง เพราะตอนแข่งเนชั่นส์ ลีก ความสนุกมันหายไป เราก็ยังพยายามฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาทีมกันอย่างต่อเนื่อง อยากให้ทีมพีกและเล่นได้ดีที่สุดกับการควอลิฟาย ส่วนเอเชียนเกมส์มันเป็นแมตช์สุดท้ายของทีมในปีนี้ ถ้าถามเป้าหมายก็อยากเข้ารอบชิงฯ หรืออยากได้แชมป์ แต่ก่อนไปถึงตรงนั้นยังมีอีก 2-3 ทัวร์นาเมนต์ ระหว่างทางพวกเราก็อยากรักษาสภาพของเราด้วย ทำระบบทีมให้ดีก่อน

 

 

StadiumTH : อยากให้ทั้ง 3 คน พูดถึงกันและกันหน่อย

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : หนูกับเอแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกัน พูดกับน้องเสมอว่าเขาเป็นเพื่อนเป็นเหมือนคนในครอบครัว เพราะเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ประถม มัธยมจนมาถึงทีมชาติ มีอะไรคล้าย ๆ กันทุกอย่างในชีวิต คอยส่งกำลังใจให้กัน สิ่งสำคัญคือเราพร้อมจะซัพพอร์ทกันและกันเสมอทั้งในและนอกสนาม ถ้าคนไหนไม่มั่นใจเราจะคอยกอดคอยหอม เป็นอารมณ์แบบเป็นเพื่อนกันมากกว่า ไม่อยากให้คิดว่าเขาเป็นน้อง แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่า อยากให้เขาอุ่นใจที่มีเราคอยซัพพอร์ท ส่วนนุชอาจจะเป็นคนนิ่ง ๆ เพราะด้วยอายุที่ห่างกัน แต่ตอนอยู่โรงเรียนอยู่บ้านเดียวกัน นุชเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ทั้งที่ความจริงแล้วเขาเป็นคนมีฝีมือมีความสามารถมากๆ ด้วยประสบการณ์ ความมั่นใจ หนูมองว่าเขายังสามารถพัฒนาไปได้อีก ส่วนนอกสนามเวลามีอะไรเราก็ชวนกันไปกินเป็นเหมือนครอบครัว รู้สึกดีใจที่มีเขาสองคนแล้วได้เห็นเขาเติบโตในเวอร์ชั่นที่ดี

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : สำหรับหนูเล่นทีมเดียวกับพี่วาฬมาตั้งแต่ ม.2 พอมีพี่วาฬหนูก็รู้สึกอุ่นใจ แต่ถ้าวันไหนพี่วาฬไม่มาซ้อมมันจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป เวลามีเรื่องไม่สบายใจหรือเล่นไม่ดีซ้อมไม่ดี เราสามารถพูดกับเขาได้เลย เขาก็มอบกำลังใจกลับมา เป็นความอุ่นใจที่มีเขาอยู่ด้วย สำหรับนุชอายุเราจะไล่เลี่ยกันมากกว่าพี่วาฬ เรานอนอยู่ห้องเดียวกันตอนเก็บตัว คุยได้ทุกเรื่อง เขาเป็นเหมือนพี่วาฬพูดเลย คือไม่ค่อยมั่นใจ หนูว่าเป็นคนคิดเยอะแล้วแต่นุชจะคิดเยอะกว่า แต่คุยได้ทุกเรื่องเป็นความสบายใจในอีกแบบ

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : พี่วาฬกับพี่เอเป็นความอุ่นใจ ในการเล่นวอลเลย์บอลมันจะมีทั้งวันที่เราเข้ามือและไม่เข้ามือ สำหรับพี่วาฬ ถ้าวันไหนหนูซ้อมหรือรับบอลแรกแล้วรู้สึกว่าบอลมันไม่เข้ามือ เราสามารถบอกพี่วาฬได้เลยว่าวันนี้หนูไม่มานะช่วยซัพพอร์ทหน่อย พี่วาฬก็จะคอยซัพพอร์ทเสมอ ส่วนพี่เอเราจะอยู่ด้วยกันตลอด เป็นรูมเมท เป็นพี่คอยช่วยเยียวยาจิตใจให้ทั้งในและนอกสนาม อยากขอบคุณ ๆ พี่ทั้งสอง ดีใจที่ได้เติบโตมาด้วยกันและทำให้เรารู้สึกว่าอายุไม่ได้เป็นปัญหา เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจริง ๆ ยิ่งเวลาเราแข่งถ้ามันรู้สึกอุ่นใจกับเพื่อนร่วมทีมมันทำให้เกิดความสบายใจในสนาม ผลงานในการเล่นจะดีขึ้น

 

 

StadiumTH : ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย

 

สุทัตตา​ เชื้อวู้หลิม : ลิเบอโร่เป็นตำแหน่งที่สำคัญมากสำหรับทีม แต่แค่เขาไม่ได้มีโอกาสในการทำแต้มเฉย ๆ อยากให้ทุกคนมองเห็นตรงนี้ เพราะเวลาคู่แข่งตบลูกมาแรง ๆ ลิเบอโร่มักจะเป็นคนรับบอลได้ก่อนส่งให้เพื่อนทำแต้ม หนูเล่นหัวเสาจะเข้าใจดีว่าการที่ลิเบอโร่รับบอลได้ให้เพื่อนจบสกอร์ได้มันสำคัญขนาดไหน

 

สุพัตรา ไพโรจน์ : ส่วนตัวแล้วมีคนคอยให้กำลังใจค่อนข้างเยอะ ก็อยากขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้หนูกับทีมมาตลอด อย่าเพิ่งหมดศรัทธากับทีมเรานะคะ ฝากติดตามเชียร์พวกเราในทุกรายการที่ลงแข่ง

 

ปิยะนุช แป้นน้อย : อยากขอบคุณแฟนคลับทุกคน ขอบคุณน้อง ๆ และเพื่อนร่วมทีมทุกคนที่จับมือกันต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมา เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ ปีนี้ยังมีอีก 2-3 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ หนัก ๆ รออยู่


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ