9 สิงหาคม 2566
ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์แต่ละครั้งนั้นนักกีฬาจำนวนไม่น้อยสามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนได้เหรียญรางวัลแห่งเกียรติยศมาเชยชมเป็นที่ภาคภูมิใจแก่เจ้าตัวเองและเพื่อนร่วมชาติที่ส่งแรงใจเชียร์ นักกีฬาเหล่านี้หลายคนสามารถขึ้นเป็นนักกีฬาระดับตำนานของประเทศตนเอง แต่ก็มีนักกีฬาอีกจำนวนหนึ่งที่กลายเป็นตำนานของมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเอเชียนี้ ซึ่งสิ่งที่ส่งเสริมให้นักกีฬากลุ่มดังกล่าวสามารถขึ้นเป็นระดับตำนานของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ได้นั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผลงานความสำเร็จอย่างต่อเนื่องยากที่ใครจะเลียนแบบได้
บทความ “5 ตำนานนักกีฬาหญิงเอเชียนเกมส์” นี้ผมอาสาจะพาทุกท่านไปพบกับเรื่องราวของนักกีฬาหญิง 5 คน ซึ่งพวกเธอนั้นสามารถสร้างผลงานเป็นประวัติศาสตร์ที่ยากเกินกว่าใครจะทำได้รวมทั้งยังสามารถต่อยอดความสามารถของตนเองไปสู่เวทีการแข่งขันที่สูงขึ้นจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น นักกีฬาหญิงที่เป็นตำนานระดับเอเชียนเกมส์ทั้ง 5 คนจะมีใครกันบ้าง ทุกท่านสามารถติดตามอ่านได้จากบทความนี้กันครับ
“ริคาโกะ อิเกะ” ราชินีสระ 6 เหรียญทองที่จาการ์ตา
ชื่อของ “ริคาโกะ อิเกะ เป็นที่รู้จักของแฟนกีฬาชาวเอเชียในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ปี 2018 ณ กรุงจาการ์ตาและเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย เจ้าตัวคือนักว่ายน้ำทีมชาติญี่ปุ่นที่มีดีกรี 4 เหรียญทองในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์เอเชียหรือเอเชียน สวิมมิ่ง แชมเปียนชิพ (Asian Swimming Championships) ปี 2016 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในประเภทฟรีสไตล์ 50 เมตร, ผีเสื้อ 50 เมตร, ผีเสื้อ 100 เมตร และทีมผลัดผสม 4x100 เมตรหญิง ด้วยวัยเพียง 16 ปี ณ ขณะนั้น
“ริคาโกะ อิเกะ” เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ด้วยวัย 18 ปีและเธอก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์กวาดเหรียญรางวัลไปได้ทั้งหมด 8 เหรียญในการแข่งขันครั้งเดียวโดยแบ่งเป็นเหรียญทองทั้งหมด 6 เหรียญและเหรียญเงิน 2 เหรียญ ซึ่งเหรียญทองนั้นก็มาจากการแข่งขันในประเภทฟรีสไตล์ 50 เมตร, ฟรีสไตล์ 100 เมตร, ผีเสื้อ 50 เมตร, ผีเสื้อ 100 เมตร, ผลัดฟรีสไตล์ 4x100 เมตรและผลัดผสม 4x100 เมตร โดยในการคว้าเหรียญทองจากประเภทบุคคลทั้ง 4 รายการนั้น ริคาโกะสามารถทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ได้ครบทั้ง 4 ประเภทอีกด้วย ส่วน 2 เหรียญเงินนั้นเจ้าตัวได้จากการแข่งขันในประเภททีมผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร และทีมผลัดผสม มิกซ์ 4x100 เมตร
จากผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ริคาโกะสามารถคว้าไปได้ 6 เหรียญทองกับอีก 2 เหรียญเงินนั้น ส่งให้เจ้าตัวกลายเป็นนักกีฬาหญิงที่สร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลเอเชียนเกมส์ได้มากที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศญี่ปุ่นเป็นรองเพียงนักว่ายน้ำรุ่นพี่อย่าง “โยชิมิ นิชิกาวะ” และ “โยชิโกะ ชาโตะ” เท่านั้น แต่หากมองความสำเร็จเพียงแค่การแข่งขันในแบบแยกเป็นรายครั้งแล้ว “ริคาโกะ อิเกะ” คือตำนานของกีฬาเอเชียนเกมส์อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
“นัม ฮยอนฮี” นักฟันดาบหญิงตำนานเกาหลีใต้
ชื่อของ “นัม ฮยอนฮี” นักกีฬาฟันดาบประเภทฟอยล์ของทีมชาติเกาหลีใต้เป็นที่รู้จักและอยู่คู่กับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์มาอย่างยาวนาน เจ้าตัวมีดีกรีที่ไม่ธรรมดา สามารถขึ้นโพเดียมในการแข่งขันฟันดาบชิงแชมป์โลกอย่างสม่ำเสมอ โดยผลงานเด่นในระดับโลกก็คือการมีส่วนร่วมสำคัญในการพาทีมชาติเกาหลีใต้คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ในการแข่งขันดาบฟอยล์ทีมหญิงของศึกฟันดาบชิงแชมป์โลกในปี 2005 ขณะที่ผลงานในโอลิมปิกเกมส์นั้นเจ้าตัวก็สามารถคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันดาบฟอยล์บุคคลหญิงโอลิมปิกเกมส์ 2008
ด้านผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ของ “นัม ฮยอนฮี” ถือว่าเป็นระดับตำนานนักกีฬาหญิงของมหกรรมกีฬานี้เลยก็ว่าได้ เมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าเหรียญทองไปได้ทั้งหมด 6 เหรียญทองกับอีก 2 เหรียญทองแดง โดยเริ่มสร้างผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 ปี 2002 ณ เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยวัย 21 ปีในขณะนั้น “นัม ฮยอนฮี” เป็นหนึ่งในขุนพลทีมดาบฟอยล์ทีมชาติเกาหลีใต้ที่ประกอบด้วย “ลิม มิ-คยอง”, “ซอ มิจอง” และ “โอ แทยัง” โดยทีมชุดนั้นถือว่ามีความลงตัวเป็นอย่างมากและสามารถปราบทีมชาติจีนขึ้นไปคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
จากนั้นในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งถัดมาที่ประเทศกาตาร์ ก็กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของ “นัม ฮยอนฮี” อย่างเต็มตัว เมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าเหรียญทองดาบฟอยล์มาครองได้ทั้งประเภทบุคคลและทีม โดยในประเภทบุคคลรอบชิงชนะเลิศนั้น “นัม ฮยอนฮี” สามารถเอาชนะ “ซอ มิจอง” เพื่อนร่วมทีมชาติไปได้แบบสนุก 15-10 คะแนน ขณะที่ในประเภททีมก็สามารถย้ำแค้นทีมชาติจีนได้อีกครั้ง จากนั้นในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ปี 2010 ณ เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน “นัม ฮยอนฮี” สร้างผลงานที่เยี่ยมยอดอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวสามารถป้องกันแชมป์ดาบฟอยล์ได้ทั้งในประเภทบุคคลและทีม โดยในประเภทบุคคล “นัม ฮยอนฮี” สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ทุกนัดที่ลงแข่งขัน
การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 ปี 2014 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ “นัม ฮยอนฮี” ยังคงลงแข่งขันเพื่อไล่ล่าความสำเร็จให้ทีมชาติเกาหลีใต้อีกครั้ง แต่ผลงานไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่ผ่านมาเมื่อในการแข่งขันดาบฟอยล์ประเภทบุคคลหญิงเจ้าตัวพลาดท่าได้เพียงเหรียญทองแดงมาปลอบใจเท่านั้น พลาดการสร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์ 3 สมัยซ้อนในประเภทนี้ แต่ในการแข่งขันประเภทดาบฟอยล์ทีมหญิงเจ้าตัวยังสามารถคว้าเหรียญทองมาครองร่วมกับทีมชาติเกาหลีใต้ได้
และล่าสุดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ปี 2018 ณ กรุงจาการ์ตาและเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย “นัม ฮยอนฮี” ในวัย 37 ปีก็ยังไว้ลายสามารถคว้ามาได้ 1 เหรียญทองแดงในประเภทดาบฟอยล์ทีมหญิงเป็นการส่งท้ายการเป็นตำนานของตนเองได้อย่างน่าประทับใจด้วยผลงาน 6 เหรียญทองกับ 2 เหรียญทองแดงในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์
“เสี่ยว เหยียนเหว่ย” ตำนานนักว่ายน้ำหญิงแดนมังกร
“เสี่ยว เหยียนเหว่ย” นักว่ายน้ำหญิงทีมชาติจีนเป็นอีกหนึ่งนักกีฬาหญิงที่สามารถสร้างผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเจ้าตัวเริ่มเก็บเกี่ยวผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 ปี 2002 ณ เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อ “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” สามารถสร้างผลงานกระหึ่มสระแดนกิมจิด้วยการกวาดไปคนเดียว 5 เหรียญทองกับอีก 1 เหรียญเงิน ด้วยวัยเพียง 18 ปีในขณะนั้น โดยเจ้าตัวคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันว่ายน้ำประเภทฟรีสไตล์ 50 เมตร, ฟรีสไตล์ 100 เมตร, ทีมผลัดฟรีสไตล์ 4x100 เมตร, ทีมผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร และทีมผลัดผสม 4x100 เมตร โดยในประเภททีมผลัดฟรีสไตล์ทั้ง 2 ประเภทนั้น “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” คือนักกีฬาที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดของทีม ส่วนเหรียญเงินที่ได้มานั้นก็มาจากประเภทฟรีสไตล์ 200 เมตร
แม้ “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” จะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2002 แต่เจ้าตัวกลับยังรู้สึกว่ามีอีกหลายสิ่งที่ตนเองต้องปรับปรุงแก้ไข “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” ฝึกซ้อมอย่างหนักและลงทำการแข่งขันในระดับโลกเพื่อสร้างผลงานและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเวียนมาถึงการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ปี 2006 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อคว้ามาได้อีก 3 เหรียญทองกับ 2 เหรียญเงิน โดย “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” ได้เหรียญทองจากประเภทฟรีสไตล์ 50 เมตร โดยทำเวลาได้ 25.23 วินาทีทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ที่ยืนยงมากว่า 12 ปี ของ “เหลอ จิงอี้” นักว่ายน้ำรุ่นพี่ลงได้สำเร็จ จากนั้นในประเภทฟรีสไตล์ 100 เมตร “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้เช่นเดียวกับในประเภททีมผลัดฟรีสไตล์ 4x100 เมตร ที่ทีมชาติจีนยังสามารถคว้าเหรียญทองไปครองได้อีกครั้งและเจ้าตัวก็คือคนที่ทำเวลาได้ดีที่สุดของทีม
สำหรับเกียรติยศสูงสุดของ “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” ในการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำนั้นก็คือการคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 28 ปี 2004 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ส่วนเอเชียนเกมส์นั้น “เสี่ยว เหยียนเหว่ย” คว้าเหรียญรางวัลรวมไปทั้งสิ้น 8 เหรียญทองกับอีก 3 เหรียญเงิน นับเป็นนักกีฬาหญิงที่คว้าเหรียญรางวัลได้มากที่สุดของประเทศจีน เป็นอีกนักกีฬาหญิงระดับตำนานเอเชียนเกมส์ที่ต้องจารึกไว้
“โอลก้า ริปาโคว่า” ตำนานความสวยที่แสนเก่งกาจจากคาซัคสถาน
ประเทศคาซัคสถานเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งแรกในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ปี 1994 ณ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต และก็สามารถทำผลงานได้อย่างดีมีนักกีฬามากมายที่สร้างความประทับใจให้กับชาวเอเชียและระดับโลกซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “โอลก้า ริปาโคว่า” นักกรีฑาที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ทั้งโอลิมปิกเกมส์ กรีฑาชิงแชมป์โลกและเอเชียนเกมส์
“โอลก้า ริปาโคว่า” เริ่มต้นสร้างผลงานในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ปี 2006 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ด้วยการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันสัตตกรีฑาโดยทำคะแนนรวมได้ 5,955 คะแนน และเก็บเหรียญทองแดงได้จากการแข่งขันกระโดดไกลโดยนับว่าเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจของสาวสวยจากคาซัคสถานรายนี้และหลังจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งนั้นเจ้าตัวก็มามุ่งเน้นที่จะลงทำการแข่งขันในประเภทเขย่งก้าวกระโดดแทนและก็เหมือนโอลก้าสามารถค้นพบความสามารถที่แท้จริงเมื่อสามารถคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ได้อย่างเหลือเชื่อ
ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ปี 2010 ณ เมืองกว่างโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นอีกครั้งที่ โอลก้าสร้างชื่อเสียงและผลงานให้กับตัวเองเมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าเหรียญทองได้จากการแข่งขันเขย่งก้าวกระโดด โดยสามารถกระโดดทำระยะได้ 14.78 เมตร ทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ของ "เซี่ย ลี่เหม่ย" นักกรีฑาทีมชาติจีนที่ทำเอาไว้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งก่อนหน้านี้ได้สำเร็จ อีกทั้งในการแข่งขันประเภทกระโดดไกล โอลก้าก็สามารถคว้าเหรียญเงินไปครองได้โดยเจ้าตัวกระโดดทำระยะได้ 6.50 เมตรแพ้ “จอง ซุนอ๊ก” เจ้าของเหรียญทองจากเกาหลีใต้ไปเพียง 0.03 เมตรเท่านั้น ทำให้โอลก้าจบการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งนั้นด้วยผลงาน 1 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน
ปี 2012 โอลก้ายังคงรักษาฟอร์มเอาไว้ได้แบบต่อเนื่องและมีพัฒนาการที่ดีเลิศ เจ้าตัวสามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาของคาซัคสถานได้จากการคว้าเหรียญทองเขย่งก้าวกระโดดในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงลอนดอนได้สำเร็จ และเธอก็ยังร้อนแรงแบบต่อเนื่องติดลมบนในเวทีการแข่งขันรายการต่างๆ ในระดับโลก จวบจนการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 ปี 2014 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้มาถึง โอลก้าก็ยังคงรับใช้ทีมชาติคาซัคสถานโดยมีเป้าหมายป้องกันแชมป์เขย่งก้าวกระโดดให้ได้อีกสมัย ซึ่งเจ้าตัวก็สามารถทำได้สำเร็จอย่างใจหวัง เป็นการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์เหรียญที่ 3 ของตัวเองและเป็นการป้องกันแชมป์เขย่งก้าวกระโดดเอาไว้ได้
และในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุดซึ่งก็คือการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ปี 2018 ณ กรุงจาการ์ตาและเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย โอลก้าก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองกรีฑาจากประเภทเขย่งก้าวกระโดดในกีฬาเอเชียนเกมส์ได้ 3 สมัยติดต่อกัน โดยเจ้าตัวในวัย 33 ปีขณะนั้นสามารถกระโดดได้ 14.26 เมตร แม้จะห่างไกลจากสถิติเอเชียนเกมส์ที่ตนเองทำเอาไว้เมื่อ 8 ปีก่อนแต่ก็เพียงพอที่จะชนะในการแข่งขันครั้งนั้น เพราะ “ปริญญา เฉื่อยมะเริง” นักกรีฑาทีมชาติไทยที่ได้เหรียญเงินกระโดดได้เพียง 13.93 เมตรเท่านั้น
“โอลก้า ริปาโคว่า” กลายเป็นนักกีฬาหญิงตำนานเอเชียนเกมส์ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 4 เหรียญทองโดยแบ่งเป็นจากการแข่งขันสัตตกรีฑา 1 เหรียญทองและเขย่งก้าวกระโดด 3 เหรียญทอง เป็นอีกหนึ่งนักกีฬาหญิงที่ไม่อาจลืมเลือนได้ลงทั้งความสามารถในการแข่งขันและรูปลักษณ์ที่แข็งแรงสวยงามของเจ้าตัว
“สเวตลาน่า ราดซีวิล” นักกระโดดสูง 3 เหรียญทองจากอุซเบกิสถาน
หากทีมชาติคาซัคสถานมี “โอลก้า ริปาโคว่า” ที่คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 3 สมัยติดต่อกันในการแข่งขันกรีฑาประเภทเขย่งก้าวกระโดด ทีมชาติอุซเบกิสถานก็มี “สเวตลาน่า ราดซีวิล” นักกรีฑาประเภทกระโดดสูงที่สามารถคว้าเหรียญทองกีฬาเอเชียนเกมส์ได้ 3 สมัยเช่นกัน แม้ว่าในระดับโลก “สเวตลาน่า ราดซีวิล” จะไม่สามารถก้าวขึ้นไปคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกหรือโอลิมปิกเกมส์ได้ก็ตาม แต่ในการแข่งขันระดับทวีปนั้นเจ้าตัวก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอุซเบกิสถานอย่างมากมาย
สเวตลาน่าเริ่มต้นรับใช้ทีมชาติอุซเบกิสถานในการแข่งขันกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์เอเชียและชิงแชมป์โลกในปี 2002 ก่อนที่จะประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก ปี 2006 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จากการแข่งขันกระโดดสูงและหลังจากนั้นสเวตลาน่าในวัยย่างเข้า 20 ปี ก็เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ปี 2006 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งแรกของเจ้าตัว โดยสามารถกระโดดได้เพียง 1.84 เมตร ได้อันดับที่ 7 ของการแข่งขันเท่านั้น แต่ในอีก 4 ปีถัดมาในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 สเวตลาน่าสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ได้สำเร็จโดยกระโดดได้ 1.95 เมตรทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ที่อยู่ยั่งยืนมากว่า 20 ปีของ “เมกูมิ ซาโตะ” ไปเพียง 0.01 เมตรเท่านั้น เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวของเธอและประเทศอุซเบกิสถาน
การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 ปี 2014 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ สเวตลาน่าก็มีโอกาสลงทำการป้องกันแชมป์กระโดดสูงอีกครั้งและเธอก็ยังคงสามารถรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อสามารถกระโดดทำสถิติได้ 1.94 เมตร แม้จะไม่สามารถทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ของตัวเองที่ทำไว้ในการแข่งขันครั้งก่อนหน้านี้ได้ แต่การคว้าเหรียญทองได้ 2 สมัยติดต่อกันก็นับเป็นผลงานที่น่าประทับใจ และหลังจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งนั้นสเวตลาน่าก็สามารถคว้าเหรียญทองกระโดดสูงในกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย 2015 ได้อีกรายการ ซึ่งนับว่าเป็นการคว้าแชมป์เอเชียได้เป็นครั้งแรกของเจ้าตัวเองอีกด้วย
และล่าสุดในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ผ่านมา สเวตลาน่ามุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อที่จะคว้าเหรียญทองกระโดดสูงในกีฬาเอเชียนเกมส์ 3 สมัยติดต่อกันให้ได้ เจ้าตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น พยายามพัฒนาร่างกายและเทคนิคในการกระโดดเพื่อให้สามารถทำสถิติของตัวเองให้ดีขึ้นไปอีก และความพยายามทั้งหมดของเจ้าตัวก็เป็นผลสำเร็จ เมื่อ “สเวตลาน่า ราดซีวิล” สามารถทำสถิติได้ 1.96 เมตร ทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ของตนเองที่ทำเอาไว้เมื่อ 8 ปีที่แล้วได้สำเร็จ และเป็นการคว้าเหรียญทองการแข่งขันเอเชียนเกมส์ได้ 3 สมัยติดต่อกัน เป็นอีกหนึ่งตำนานนักกีฬาหญิงในเอเชียนเกมส์และของประเทศอุซเบกิสถาน
ครับทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ 5 นักกีฬาหญิงที่จัดได้ว่าเป็นระดับตำนานของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ทั้ง 5 คนคือนักกีฬาที่สามารถสร้างผลงานให้กับตนเองและประเทศชาติได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นผู้หญิงที่มีทั้งความเก่งและแกร่งจนน่าจะนำเสนอเรื่องราวของพวกเธอให้เป็นแรงบันดาลใจต่อทุกคน และทุกคนคือตำนานของกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ควรค่าแก่การจดจำ
TAG ที่เกี่ยวข้อง