stadium

อาณัติ รัตนพล ลมกรด 6 เหรียญทองเอเชียนเกมส์

20 กรกฎาคม 2566

ตลอดการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันนั้นมีนักกีฬาทีมชาติไทยมากมายหลายคนที่สามารถสร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับตนเองและประเทศไทยได้สำเร็จ หลายคนถูกจดจำจากผลงานการคว้าเหรียญรางวัลหรือบางคนก็ถูกจดจำจากเรื่องราวที่ได้สร้างขึ้นในระหว่างเกมการแข่งขัน ซึ่งสำหรับผมแล้วการจะเลือกว่านักกีฬาทีมชาติไทยคนไหนเหมาะสมที่จะนำเสนอในบทความ “ตำนานนักกีฬาไทยในเอเชียนเกมส์” นั้นก็มีหลายตัวเลือกพอสมควรครับ

 

แต่คนหนึ่งที่ผมคิดว่ามีความเหมาะสมและโดดเด่นจนเข้าขั้นระดับตำนานก็คือ “อาณัติ รัตนพล” นักวิ่งลมกรดทีมชาติไทยที่สามารถสร้างปรากฎการณ์คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ไปได้ถึง 6 เหรียญทอง ทั้งยังสามารถทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ในบางรายการได้อีกด้วย โดยอาณัตินั้นลงทำการแข่งขันในรายการวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร และวิ่งผลัด 4x100 เมตร ซึ่งแต่ละรายการที่ลงทำการแข่งขันนั้นก็ล้วนเป็นไฮไลท์ของการแข่งขันกรีฑาทั้งสิ้น จึงทำให้ชื่อเสียงของเจ้าตัวในยุคนั้นยากที่จะไม่มีใครไม่รู้จัก

 

บทความนี้ผมจึงอยากจะพาผู้อ่านทุกท่านไปย้อนรอยเส้นทางความเป็นตำนานเอเชียนเกมส์ของ “อาณัติ รัตนพล”  กันครับ

 

 

เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 6 จุดเริ่มต้นของลมกรด “อาณัติ รัตนพล”

 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนครับว่าในช่วงแรกของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์นั้น ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยยังไม่อาจทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลได้มากนักและโดยเฉพาะในการแข่งขันกรีฑาด้วยแล้วการที่จะมีธงชาติไทยไปโบกสะบัดอยู่บนโพเดียมรับเหรียญรางวัลยิ่งเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย ซึ่งการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ใน 5 ครั้งแรกระหว่างปี 1951-1966 นั้น ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยได้เหรียญรางวัลในกีฬาเอเชียนเกมส์จากการแข่งขันกรีฑาเพียง 1 เหรียญทองแดงเท่านั้นจาก “ทิพาพรรณ ลีนะเสน” ในการแข่งขันกระโดดสูงหญิง ของการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 4 ปี 1962 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

 

จนการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 6 ปี 1970 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย มาถึงวงการกรีฑาเอเชียก็ได้รู้จักชื่อของ “อาณัติ รัตนพล” เมื่อเจ้าตัวสามารถสร้างประวัติคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์มาครองได้อย่างพลิกความคาดหมาย ซึ่งที่ต้องบอกว่าพลิกความคาดหมายนั้นก็เป็นเพราะว่าในช่วงเวลาดังกล่าวทีมกรีฑาทีมชาติไทยทำผลงานในการแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างน่าผิดหวัง โดยเฉพาะในการแข่งขันกีฬาเซียพเกมส์ ครั้งที่ 5 ปี 1969 ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ที่ทัพกรีฑาทีมชาติไทยเกือบจะไร้เหรียญทองคล้องคอ แค่ในระดับอาเซียนยังยากที่จะประสบความสำเร็จแล้วในระดับเอเชียจะไปเหลืออะไร ดังนั้นการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งดังกล่าวแม้จะได้แข่งขันกันที่ประเทศไทยแต่ก็ไม่มีใครคาดหวังผลงานกับทีมกรีฑาทีมชาติไทย

 

แต่ก็อย่างคำโบราณว่าไว้ครับว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 6 “อาณัติ รัตนพล” สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์มาครองได้จากการแข่งขันวิ่ง 200 เมตรและวิ่งผลัด 4x100 เมตร แถมพ่วงมาด้วยเหรียญเงินจากการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร ที่อาณัติพลาดท่าแพ้ให้กับ “มาซาฮิดะ จินโนะ” จากประเทศญี่ปุ่นไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ส่วนในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตร อาณัติสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองได้ด้วยเวลา 21.11 วินาที ทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ได้สำเร็จ ส่วนเหรียญเงินก็ตกเป็นของคู่ปรับอย่าง “มาซาฮิดะ จินโนะ” 

 

ส่วนในการแข่งขันรายการวิ่งผลัด 4x100 เมตร ที่เจ้าตัวก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง “พนัส อริยะมงคล”, “กนกศักดิ์ เจตสานนท์” และ “สมศักดิ์ ทองสุข” ได้นั้น ทีมชุดดังกล่าวสามารถเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งหลังจากจบการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งดังกล่าวแล้ว ชื่อเสียงของ “อาณัติ รัตนพล” ก็โด่งดังไปทั่วเอเชียกลายเป็นไฮไลท์แห่งความทรงจำมาจนทุกวันนี้

 

 

รักษาผลงานสร้างความยิ่งใหญ่ในเอเชียอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 6 ปี 1970 จบลง “อาณัติ รัตนพล” และทีมระยะสั้นทีมชาติไทย ยังคงร่วมกันสร้างผลงานในระดับเอเชียได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 1973 สมาคมกรีฑาเอเชีย (Asian Athletics Association) ได้เริ่มต้นจัดการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียหรือเอเชียน แอทเลติก แชมเปียนชิพ (Asian Athletics Championships) ขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นการยกระดับวงการรีฑาในทวีปเอเชีย ซึ่ง “อาณัติ รัตนพล” ก็สามารถคว้าเหรียญทองได้ 2 เหรียญจากการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตร

 

ส่วนการแข่งขันวิ่งผลัด 4x100 เมตร ที่ไทยเราเป็นเจ้าของเหรียญทองในกีฬาเอเชียนเกมส์นั้น กลับต้องมาพลาดท่าให้กับทีมชาติญี่ปุ่นคู่ปรับสำคัญเพียงเสี้ยววินาทีได้เพียงเหรียญเงินชิงแชมป์เอเชียไปครองแบบน่าเสียดายเพราะใน 3 ไม้แรกที่มีอาณัติหนึ่งในนั้นทีมชาติไทยยังสามารถขึ้นนำทีมชาติญี่ปุ่นคู่ปรับสำคัญได้อยู่ ก่อนที่จะมาเสียทีในไม้สุดท้ายเมื่อนักวิ่งจากแดนอาทิตย์อุทัยวิ่งไล่แซง “สุชาติ แจสุรภาพ” ไปแบบฉิวเฉียด นั่นทำให้สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยต้องเร่งแก้ไขข้อผิดพลาดก่อนที่การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 1974 จะเริ่มต้นขึ้น

 

และเมื่อเวลาของการแข่งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 7 ปี 1974 ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน มาถึง “อาณัติ รัตนพล” ก็ยังคงเป็นกำลังสำคัญและเป็นความหวังในการล่าเหรียญทองของทัพนักกีฬาทีมชาติไทยและเจ้าตัวก็ไม่ทำให้กองเชียร์ต้องผิดหวังเมื่อสามารถคว้า 3 เหรียญทองในซีรีย์ของการแข่งขันวิ่งระยะสั้นมาครองได้อย่างครบถ้วน นั่นก็คือรายการวิ่ง 100 เมตร วิ่ง 200 เมตร และวิ่งผลัด 4x100 เมตร โดยในรายการวิ่ง 200 เมตรนั้นอาณัติสามารถทำเวลาได้ 21.09 วินาที เป็นการทำลายสถิติเอเชียนเกมส์ของตัวเองที่ทำเอาไว้ในการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา

 

ผลงานของ “อาณัติ รัตนพล” นับได้ว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ในระดับเอเชีย การที่เจ้าสามารถคว้าได้ 5 เหรียญทองกับ 1 เหรียญเงินในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2 ครั้งที่ผ่านมาในปี 1970 และ 1974 รวมทั้งสามารถคว้า 4 เหรียญทอง (วิ่ง 100 เมตร และวิ่ง 200 เมตร) กับ 1 เหรียญเงินวิ่งผลัด 4x100 เมตร ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียหรือเอเชียน แอทเลติก แชมเปียนชิพ 2 ครั้งในปี 1973 และ 1975 นับว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ต้องจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์มาจนทุกวันนี้

 

 

เหรียญทองสุดท้ายปิดตำนานเจ้าลมกรดเอเชียนเกมส์

 

กาลเวลาเป็นศัตรูที่มนุษย์เราไม่อาจจะเอาชนะได้ วันเวลาผ่านไปอายุของอาณัติก็เพิ่มมากขึ้น จากนักวิ่งวัยหนุ่มที่สร้างผลงานกระหึ่มเอเชียจนเมื่อการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 8 ปี 1978 มาถึงเจ้าตัวก็มีอายุ 31 ปีในขณะนั้นซึ่งนับได้ว่าเริ่มเป็นช่วงปลายของชีวิตการเป็นนักกีฬาทีมชาติแล้ว โดยในครั้งนั้นอาณัติก็ยังคงลงทำการแข่งขันในรายการที่เจ้าตัวถนัดแต่ก็ต้องยอมรับว่าสภาพร่างกายไม่ได้เหมือนอย่างการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2 ครั้งก่อนหน้านี้แล้ว เพราะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นประกอบกับประเทศต่างๆ ก็มีนักกีฬาดาวรุ่งขึ้นมามากมายโอกาสจะสร้างความยิ่งใหญ่อย่างในอดีตก็เป็นเรื่องยาก

 

ในการแข่งขันครั้งนั้นอาณัติสามารถคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง โดยเหรียญทองนั้นเจ้าตัวคือหนึ่งในทีมลมกรดวิ่งผลัด 4x100 เมตร ที่สามารถคว้าเหรียญทองได้อีกสมัยด้วยเวลา 40.32 วินาที เฉือนทีมชาติญี่ปุ่นคู่ปรับเก่าไปเพียง 0.01 วินาทีเท่านั้น โดยเหรียญทองนี้ถือว่าเป็นเหรียญทองเอเชียนเกมส์เหรียญที่ 6 ของอาณัติ ส่วนเหรียญทองแดงก็ได้จากการแข่งขันวิ่ง 200 เมตร ที่เจ้าตัวเป็นแชมป์เก่าแต่ในครั้งนี้อาณัติทิ้งทวนด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งแม้จะไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของโพเดียมได้อย่างเช่นกาลก่อน แต่ผลงานนี้ก็ทรงคุณค่าแก่การจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย

 

ครับและนี่คือเรื่องราวผลงานของ “อาณัติ รัตนพล” ตำนานนักกีฬาไทยในกีฬาเอเชียนเกมส์ ลมกรดเจ้าเอเชียที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยมาจนทุกวันนี้กับผลงาน 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย


stadium

author

ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง)

ผู้ชื่นชอบการรวบรวมข้อมูลนักกีฬาไทย และหลงไหลในกาแฟ ธรรมชาติ และหมาแมว