จับเข่าคุย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชีวิตอีกขั้นบนเส้นทางแห่งความฝัน

ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังและหมายเลขหนึ่งของวงการแบดมินตันชายเดียวไทยเต็มตัวแล้วสำหรับ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่ผลักดันตัวเองจากเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม BWF ปี 2021 ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีก็ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่มือ 3 ของโลก ตามด้วยการเป็นรองแชมป์โลก และคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จในปีล่าสุด

การเทิร์นโปรของ "วิว" คือพัฒนาการและความเติบโตทั้งร่างกาย ความคิดรวมถึงจิตใจที่ผ่านการสั่งสอนประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ณ วันนี้ ชีวิตของ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ได้ก้าวข้ามคำว่าแชมป์เยาวชนโลก มาอยู่ในโลกแห่งความจริงที่เต็มไปด้วยการแข่งขันระดับสูงอีกขั้นแล้ว

วาดฝันในเส้นทางแบดมินตันไว้อย่างไร?

“ความใฝ่ฝันของผมคือการก้าวไปสู่การเป็นแชมป์โลก แชมป์โอลิมปิกและแชมป์รายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง “ออลอิงแลนด์” ซึ่งมันคือความฝันตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก แต่ถ้าให้เลือกว่าต้องการแชมป์รายการไหนมากที่สุดแน่นอนแชมป์กีฬาโอลิมปิกคือที่สุดแล้วเพราะว่า 4 ปีถึงจะมีการแข่งขันสักครั้งหนึ่งและผมยังเชื่อว่าโอลิมปิกก็เป็นความฝันของใครหลายๆ คนเดียวเหมือนกัน”

เข้าใกล้ฝันมากน้อยแค่ไหน?

“ส่วนตัวผมมองว่ายังไม่ใกล้เคียงขนาดนั้น เพียงแต่เราสามารถก้าวข้ามระดับเยาวชนมาได้ดังนั้นจะต้องพัฒนาฝีมือและพยายามยืนระยะให้สามารถอยู่ในระดับท็อป 10 ของโลกไว้ให้ได้ ถ้ามองภาพรวมจาก 2 ปีที่แล้วผมรู้สึกว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ มันจึงทำให้มีโอกาสที่ดีที่จะสามารถไปให้ถึงความฝันนั้นได้”

• คุยกับ "โค้ชเป้" ภัททพล เงินศรีสุข แกะพิมพ์เขียวสร้างนักแบดบ้านทองหยอด
• เต็มอิ่มทุกเรื่องราวบนคอร์ทแบด​ทุกรสชาติของชีวิต ‘รัชนก อินทนนท์’ ​

การเรียกความฟิตหลังจากประสบปัญหาด้านสภาพร่างกาย?

“ในช่วงที่ทำการแข่งขัน เราจะมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬาติดตามไปด้วยที่จะคอยช่วยดูแลและให้คำแนะนำทั้งก่อนและหลังการแข่งขันว่าควรจะต้องทำอย่างไร เช่นก่อนทำการแข่งก็จะมีการนวดเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดความพร้อมก่อนลงแข่งหรือหลังจากแข่งขันเสร็จแล้วก็จะแช่น้ำหรือประคบน้ำแข็งเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย”

วิธีการจัดการกับความรู้สึกด้านลบ?

“ผมพยายามทำทุกอย่างให้เต็มที่เสมอ ในเวลาที่เหนื่อยหรือท้อแท้ผมมักจะคิดถึงอนาคตหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กและเพื่อให้ครอบครัวของผมภูมิใจว่าผมสามารถทำได้สำเร็จ ผมจะบอกกับตัวเองท้อได้แต่ห้ามถอย โดยตอนนี้ผมขอเริ่มต้นจากก้าวสั้นๆ อย่างโอลิมปิกเกมที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า ผมเองจะพยายามทำผลงานให้ดีเพื่อเก็บสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขัน”

ความพร้อมสำหรับเอเชี่ยนเกมส์ปี 2023 ? 

“นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสลงทำการแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์ แน่นอนว่าผมต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดและจะทำผลงานให้ได้ตามเป้าคือยังไม่อยากหวังสูงขอแค่พยายามทำผลงานในแต่ละรอบการแข่งขันให้ดีเพื่อไม่ให้เป็นการกดดันตัวเองมากจนเกินไปเพราะตามที่เราเข้าใจกันว่าการพัฒนากีฬาแบดมินตันในระดับนานาชาติเขามีความต่อเนื่อง ทุกชาติน่ากลัวมากในเวลานี้”

ปรับเปลี่ยนวิธีซ้อมอย่างไร?

“นักกีฬาแบดมินตันส่วนใหญ่เขาจะมีเล่นเกมรุกเป็นหลัก สำหรับผมการเล่นรับมันเป็นสไตล์ที่ถนัดแต่ในขณะนี้ก็เริ่มจะมีการฝึกซ้อมการเล่นเกมรุกให้มากขึ้น มันจะต้องใช้พละกำลังที่เยอะขึ้นแต่ผมเองก็จะพยายามฝึกซ้อมและปรับปรุงให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มเติมในส่วนของพละกำลังและสภาพร่างกายรวมถึงการควบคุมสภาพจิตใจเพื่อให้สามารถรับมือกับแรงกดดันนั้นให้ได้”

อะไรคือสิ่งที่ วิว กุลวุฒิ ต้องพัฒนา?

“ผมเลือกที่จะพัฒนาในด้านสภาพร่างกายมากกว่าเพราะในการลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ใช้เวลาแข่งขันกันนานๆ มันอาจจะทำให้เราแผ่วลงมาและยืนระยะไม่ได้บ้าง ถามว่าทำไมผลงานในบางรายการถึงดรอปลงไปนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะสภาพร่างกายของผมที่ไม่สามารถยืนระยะได้ เมื่อเทียบกับนักกีฬาต่างชาติที่เขาจะทำได้ดีกว่า ถ้าจะให้คะแนนตัวเองผมมองว่าน่าจะ 8 เต็ม 10 คะแนน”

นับจากนี้ต่อไป ความหวังใหม่ของวงการแบดมินตันไทยกำลังจะฉายแสง ซึ่งไม่มีใครรู้อนาคตได้เลยว่า วิว กุลวุฒิ จะสามารถไปได้ไกลมากน้อยแค่ไหนกับความหวังที่จะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์โอลิมปิก แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เกิดแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปคือความฝันที่หวังว่าสักวันหนึ่งเด็กหนุ่มคนนี้จะไปยืนอยู่บนยอดเขาแห่งความสำเร็จนั้นให้ได้ตามที่ตั้งใจ