กางแผนฝ่าลมหนาวสมาคมสกีฯ กับเป้าหมายสู่เวทีโลก

ใกล้เข้ามาทุกขณะกับมหกรรมกีฬาเอเชียน วินเทอร์ เกมส์ หรือเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025 ที่จัดขึ้น ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 7-14 กุมภาพันธ์นี้ โดยประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 4 ประเภท หนึ่งในความหวังของไทยที่มีลุ้นเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้นั่นคือกีฬาประเภทสกีและสโนว์บอร์ด แน่นอนว่าอาจจะไม่เข้าขั้นตัวเต็งลุ้นอันดับหนึ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้
เช่นกันว่าอาจมีเซอร์ไพร์สให้คนไทยได้ชื่นชม

StadiumTH ได้รับเกียรติจาก ‘นาย ธราธิป ฉันทะวัฒน์’ รองเลขาธิการสมาคมกีฬาสกีและสโนว์บอร์ดแห่งประเทศไทย ที่จะมาพูดถึงความพร้อม และ เป้าหมายที่วางไว้กับการชิงชัยในเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025 พร้อมกับเปรยแผนการในอนาคตที่สมาคมฯ วางรากฐานไว้อย่างมั่นคง ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อม และ ศักยภาพของนักกีฬาไทยว่าสามารถเทียบเคียงกับนักกีฬาต่างชาติได้โดยที่ไม่ด้อยไปกว่ากัน

ความพร้อมก่อนลุยหิมะที่ฮาร์บิน

เมื่อพูดถึงมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว คนไทยอาจจะมองเป็นเรื่องไกลตัวด้วยปัจจัยด้านภูมิอากาศและลักษณะภูมิประเทศที่ค่อนข้างแตกต่างจากประเทศในแถบเอเชียเหนือ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือปัจจัยด้านอุณหภูมิที่เมืองไทยเป็นประเทศเขตร้อนทำให้หลายคนมองว่าอาจเป็นปัญหาและอุปสรรคสำหรับนักกีฬา นอกจากนี้ยังหมายรวมไปถึงศูนย์ฝึกหรือสนามแข่งขันที่บ้านเราแทบจะไม่ใกล้เคียงกับคำว่ากีฬาฤดูหนาวเลยแม้แต่น้อย 

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมกีฬาสกีและสโนว์บอร์ดแห่งประเทศไทยเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะสามารถพัฒนานักกีฬาไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ โดยเชื่อว่าถ้ารู้จักคำว่าปรับใช้ก็คงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงเกิดเป็นการวางแผนเพื่อต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคตไว้ตั้งแต่การแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

ธราธิป ฉันทะวัฒน์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้อธิบายว่า ประเภทกีฬาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทางสมาคมฯ ประกอบไปด้วย 6 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1.ครอสคันทรีสกี 2.ไบแอธล่อน 3.อัลไพน์สกี 4.สกีปืนเขา 5.สกีฟรีสไตล์ 6.สโนว์บอร์ด ซึ่งทั้งหมดนี้ทางสมาคมได้ส่งตัวนักกีฬาเข้าทำการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งนี้เช่นกัน

“ความพร้อมของนักกีฬาในขณะนี้ นักกีฬาครอสคันทรีสกี ไบแอทล่อนและอัลไพน์ ขณะนี้กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในส่วนของทีมสกีปีนเขาได้ไปเก็บตัวอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สกีฟรีสไตล์เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส สำหรับสโนว์บอร์ดนักกีฬาของเรากำลังเดินสายแข่งขันในระดับนานาชาติในแถบทวีปยุโรป แต่ถือว่าเป็นความโชคร้ายที่กีฬาบอบสเลดไม่ได้ถูกบรรจุเข้าทำการแข่งขัน เนื่องจากทางประเทศจีนที่เป็นเจ้าภาพไม่มีสนามแข่งขัน เพราะบอบเสลจ์คือความหวังของทางสมาคมฯ และความหวังของประเทศไทย เนื่องจากนักกีฬาของไทยเพิ่งจะคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันระดับยูธ โอลิมปิก 2024 ที่ผ่านมาและยังติดอันดับท็อป 5 ของเอเชีย”

แม้ว่ากีฬาความหวังอย่างบอบสเลดจะไม่ถูกบรรจุเข้าไปในการแข่งขันครั้งนี้ แต่เลขาธิการสมาคมฯ มองภาพรวมว่า อย่างไรเสียกีฬาชนิดอื่น ๆ ก็ยังพอมีลุ้นมีหวัง โดย ธราธิปเชื่อมั่นว่า นักกีฬาไทยจะสามารถโชว์ศักยภาพออกมาได้อย่างไม่เขินอาย ทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์เพื่อต่อยอดสู่การแข่งขันในรายการครั้งถัดไป

เป้าหมายและโอกาสสู่ความสำเร็จ

ในทุกการแข่งขัน ทุกคนย่อมหวังผลถึงความสำเร็จเสมอ เมื่อถามถึงความหวังกับโอกาสในการที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายที่สมาคมฯ ปักธงไว้ ธราธิป บอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เพียงแต่ขณะนี้ทางสมาคมฯ มองไปทีละขั้นก้าวไปทีละสเต็ป โดยมุ่งเป้าไปที่ประสบการณ์ของนักกีฬาเป็นสำคัญ

“เป้าหมายของสมาคมฯ เราแยกเป็นตามประเภทกีฬา โดยที่ทีมครอสคันทรีสกีเราตั้งเป้าหมายไว้ค่อนข้างสูงคือพยายามทำอันดับเพื่อให้ติดท็อป 10 ของเอเชียให้ได้ไม่ว่าจะเป็นประเภทชายและหญิง นี่คือเป้าหมายสูงสุดของเรา ในส่วนของทีมอัลไพน์สกีต้องติดท็อป 15 ของเอเชียให้ได้”

เห็นได้ชัดเจนว่า สมาคมฯ ไม่ต้องการเร่งรัดความสำเร็จแม้รู้ดีว่ากีฬาชนิดใดมีลุ้นหรือสามารถหวังเหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้ได้ แต่ใช้กลยุทธ์ค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้นักกีฬาได้รับประสบการณ์อันจะต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

ธราธิป บอกต่อว่า สำหรับสกีปีนเขาซึ่งเป็นกีฬาเฉพาะทางอีกทั้งในทวีปเอเชียจำนวนนักกีฬาชนิดดังกล่าวยังมีจำนวนที่น้อยกว่ากีฬาชนิดอื่น ๆ ดังนั้นจึงวางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องติดท็อป 10-5 ของทวีปให้ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรความปลอดภัยของนักกีฬาทุกประเภทคือสิ่งสำคัญยิ่งกว่าความสำเร็จ

“ในส่วนของสโนว์บอร์ดที่มีความเป็นเอ็กซ์สตรีมมากที่สุดเราหวังเพียงว่าให้นักกีฬาทำการแข่งขันให้จบและต้องไม่ได้รับบาดเจ็บ อีกหนึ่งชนิดกีฬาที่เป็นความหวังของสมาคมฯ คือสกีฟรีสไตล์เพราะนักกีฬาของเราเคยได้รับเหรียญรางวัลมาแล้วในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ดังนั้นจึงหวังว่าจะต้องทำอันดับติด 1 ใน 5 หรือมากไปกว่านั้นจะต้องติดโพเดียมรับเหรียญรางวัลเพราะเราเชื่อในศักยภาพของนักกีฬา”

เห็นได้ชัดว่า เป้าหมายคือสิ่งสำคัญแต่เหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือประสบการณ์ที่นักกีฬาอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฯ จำเป็นต้องได้รับเพราะนั่นคือรากฐานของความสำเร็จในระยะยาว

จากเอเชียนวินเทอร์สู่โอลิมปิกฤดูหนาว

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายระยะยาวที่สมาคมนักกีฬาสกีและสโนว์บอร์ดแห่งประเทศไทยปักหมุดไว้คือการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ จุดประสงค์หลักคือการเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านสภาพภูมิอากาศและสถานที่ฝึกซ้อม แต่ด้วยความตั้งใจที่จะผลักดันนักกีฬาให้ก้าวไกลสู่เวทีโลกทางสมาคมฯ เองนั้นก็พร้อมจะเสาะหาแนวทางเพื่อสร้างโอกาสในความเป็นไปได้

“แผนต่อไปที่วางไว้หลังจบการแข่งขันที่ฮาร์บิน เป้าหมายต่อไปของทางสมาคมฯ เรามองไปที่โอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว 2026 ที่เมืองโตริโน่ ประเทศอิตาลี ซึ่งในขณะนี้มีนักกีฬาบอบสเลด เริ่มออกทำการเก็บตัวฝึกซ้อมและทำการแข่งขันทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อทำการเก็บคะแนนก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันชิงแชมป์โลกและคว้าสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวต่อไป” เลขาธิการสมาคมฯ อธิบายแผนการในอนาคต

พร้อมกันนี้ ธราธิปยังเสริมด้วยว่า ความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้ ทางสมาคมฯ ได้ส่งตัวนักกีฬาทั้งทีมชาติชุดใหญ่และทีมเยาวชนบางส่วนไปฝึกซ้อมและร่วมทำการแข่งขันในรายการยังต่างประเทศเพื่อเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสะสมคะแนนเพื่อคว้าสิทธิ์ในการลุ้นเข้าสู่โอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งต่อไป

“เป็นเป้าหมายของทางสมาคมฯ หลังจากจบการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ที่เมืองฮาร์บิน ประเทศจีน ที่กำลังจะเริ่มในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพียงแต่ว่าโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2026 มันอาจจะเร็วเกินไปเพราะฉะนั้นต้องมองเป้าหมายในระยะยาวนั่นคือปี 2030” 

ธราธิป บอกต่อด้วยว่า สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ไม่เพียงแต่เน้นการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมการพัฒนานักกีฬาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยการเปิดรับสมัครนักกีฬาจากหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกรีฑา ว่ายน้ำ หรือโรลเลอร์สกี เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกและทดสอบสมรรถภาพก่อนส่งตัวไปฝึกซ้อมในต่างประเทศ 

นอกจากนี้ยังจัดให้มีการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนในประเทศไทยด้วย เพื่อเป็นการเผยแพร่ทักษะกีฬาฤดูหนาวให้คนไทยได้เรียนรู้อย่างถูกต้อง เพราะจากสถิติตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาจำนวนผู้ที่สนใจกีฬาฤดูหนาวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนตัวเลขจาก 40-60 คนเมื่อปี 2018 แต่ในปัจจุบันขยับสูงถึง 260 คนในขณะนี้จะเห็นได้ว่าวิสัยทัศน์ของสมาคมฯ มิใช่เพียงเป้าหมายระยะใกล้ หากแต่ยังมองไปไกลถึงโอลิมปิกฤดูหนาว

ปี 2030 โดยมุ่งเน้นการพัฒนากีฬาประเภทสไลด์ เช่น บอบสเลด สเกเลตัน และลูจ ด้วยการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมและแข่งขันในต่างประเทศเพื่อเพิ่มประสบการณ์และพัฒนาความสามารถให้ทัดเทียมนักกีฬาระดับโลก