30 มกราคม 2568
เสียงไม้กวาดที่ขูดไปบนพื้นน้ำแข็ง ก้อนหินแกรนิตหนักกว่า 20 กิโลกรัมเคลื่อนตัวอย่างแผ่วเบา แผนการเล่น และ กลยุทธ์ถูกคิดคำนวณภายในเสี้ยววินาที ทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ของ “เคิร์ลลิ่ง” กีฬาที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคย แต่สำหรับ “เล็ก ชนาธิป ซ้อนขำ” มันคือท้าทายบนเวทีใหม่ที่เธอเลือกเผชิญ หลังจากสร้างชื่อในฐานะนักเทควันโดทีมชาติผู้คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก ลอนดอน 2012 และเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 มาก่อนหน้านี้
เรื่องราวของเล็กคือการเดินทางที่น่าทึ่ง จากเด็กหญิงผู้หลงใหลชุดเทควันโดในจังหวัดพัทลุง สู่ลานน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยความฝันและความหวัง เธอพร้อมที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า ความท้าทายบนลานน้ำแข็งที่เยือกเย็น แม้ประเทศไทยจะไม่ใกล้เคียงกับคำนั้น แต่ด้วยจิตวิญญาณนักกีฬาของเธอสามารถหลอมรวมกับน้ำแข็งและความหวัง เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในมหกรรมกีฬาฤดูหนาวที่กำลังจะบรรเลง
ก้าวแรกสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ
ที่จังหวัดพัทลุงในวันว่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง เทควันโดกลายเป็นเพื่อนคู่ใจตั้งแต่อายุ 13 ปี ด้วยแรงบันดาลใจจากความเท่ของชุดกีฬาและภาพลักษณ์ที่น่าหลงใหลในสายตาเด็ก ๆ ในตัวเมือง ชนาธิป หรือ “เล็ก” เริ่มต้นด้วยความใฝ่ฝันเล็ก ๆ ในการออกกำลังกายเพื่อความสนุก แต่ใครจะรู้ว่านี่คือก้าวแรกสู่เส้นทางนักกีฬาทีมชาติ
ด้วยพรสวรรค์และความพยายามอย่างหนัก เธอไต่เต้าจากการเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติในช่วงอายุ 15-17 ปี สร้างชื่อเสียงจากผลงานที่โดดเด่นจนได้เป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่ลอนดอนปี 2012 แม้ผลลัพธ์จะเป็นเพียงเหรียญทองแดง แต่สำหรับเล็ก มันคือความสำเร็จครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเธอโดยสิ้นเชิง
“ตอนนั้นไม่ใช่ตัวเต็ง หลายคนมองว่าเราเป็นแค่ม้ามืด แต่เมื่อทำได้สำเร็จ เรารู้สึกปลดล็อกตัวเอง” เล็กเล่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำพาเธอไปสู่ความสำเร็จในชีวิต
แรงผลักดันที่ทำให้สามารถไปคว้าเหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิกเกิดจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก ในทันทีที่ก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย เป้าหมายที่หวังไว้จะต้องไปให้สูงที่สุด เพราะเล็กมีต้นแบบความสำเร็จมาจาก “เยาวภา บุรพลชัย” และ “บุตรี เผือดผ่อง” ที่เสมือนเป็นไอดอล
“การคว้าเหรียญโอลิมปิกครั้งนั้นเรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตก็ว่าได้ เพราะมันมีเรื่องของเงินรางวัล ชื่อเสียง ที่จะทำให้นักกีฬาที่มาจากต่างจังหวัดคนนึงที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร ทั้งเรื่องของทุนการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ให้ทุนจนจบปริญญาเอก ในเรื่องของการเงินก็มีทุนมาช่วยเหลือครอบครัวจนทำให้เรามีทั้งบ้านและรถยนต์ อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อีกด้วย”
จากเหรียญทองแดงโอลิมปิกสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหม่
จากความสำเร็จมากมายที่ได้รับในฐานะนักกีฬาเทควันโด ทั้งการคว้าแชมป์โลก แชมป์เอเชียนเกมส์ จนมาถึงการได้เหรียญทองแดงในโอลิมปิก ทว่าในวันที่เล็กต้องสลัดคราบนักกีฬาทีมชาติแล้วต้องมารับบทบาทเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เส้นทางของเล็กกลับพลิกผันอีกครั้ง เมื่อรุ่นพี่ที่สนิทชักชวนให้เธอลองเล่นกีฬาเคิร์ลลิ่ง โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหม่ของชีวิต
“เราก็เคยดูและรู้สึกว่ามันสนุกดีคล้ายกีฬาเปตอง พวกพี่เขาก็เริ่มชักชวนให้มาลองเล่นกีฬาชนิดนี้ดู จำได้ว่าครั้งแรกที่พี่เขาชวนให้เราไปเล่นนึกว่าเล่นกันขำ ๆ สนุก ๆ แต่พอไปเห็นคนเยอะก็รู้สึกแปลก ๆ พี่เขาก็เฉลยว่านี่แหละที่เห็นทั้งหมดเขาเปิดคัดตัวเป็นนักกีฬาทีมชาติกันทั้งนั้น เราก็ตกใจ ก็ถามกลับไปว่าเราเล่นได้เหรอพี่เขาก็ตอบกลับมาว่าเล่นได้ทุกเพศทุกวัย หลังจากนั้นก็กลับมาปรึกษากับโค้ชเชที่เป็นโค้ชเทควันโดก็ได้รับอนุญาตแต่ต้องไม่กระทบกับเวลาซ้อมเทควันโด” ด้วยคำแนะนำจากโค้ชเช เธอเริ่มฝึกซ้อมเคิร์ลลิ่งควบคู่กับการทำหน้าที่ในสมาคมเทควันโดฯ อย่างเต็มที่โดยที่จัดสรรเวลาได้อย่างลงตัวเพื่อไม่กระทบกับหน้าที่
เคิร์ลลิ่งอาจยังไม่เป็นที่รู้จักในไทยมากนัก แต่กีฬาชนิดนี้มีกติกาที่น่าสนใจและท้าทาย การแข่งขันจะเกิดขึ้นบนลานน้ำแข็ง โดยผู้เล่นแต่ละทีมมีหน้าที่ส่ง “หิน” (Curling Stone) ซึ่งเป็นก้อนหินแกรนิตหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ให้ไถลไปบนลานน้ำแข็งเข้าสู่เป้าหมายที่เรียกว่า House (มีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายเป้ายิงปืน)
ทีมจะสลับกันส่งหินคนละ 8 ครั้งต่อรอบ (หรือ End) โดยคะแนนจะนับจากตำแหน่งของหินที่ใกล้จุดศูนย์กลางของ House มากที่สุด ทีมที่ทำคะแนนสูงสุดเมื่อจบการแข่งขัน 8-10 รอบจะเป็นผู้ชนะ
สิ่งที่ทำให้เคิร์ลลิ่งแตกต่างคือบทบาทของผู้เล่นที่ต้อง ขัดน้ำแข็ง ด้วยไม้กวาด (Sweeping) เพื่อควบคุมความเร็วและทิศทางของหิน รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อสร้างแต้มและป้องกันฝ่ายตรงข้าม
สร้างฝันครั้งใหม่ในเวทีวินเทอร์เกมส์
แม้ประเทศไทยจะไม่มีฤดูหนาว แต่เล็กมุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อสร้างชื่อเสียงในกีฬาวินเทอร์อย่างเคิร์ลลิ่ง ในการแข่งขันเอเชียน วินเทอร์ เกมส์ ครั้งนี้ เธอตั้งเป้าหมายไม่เพียงแค่การคว้าเหรียญ แต่ยังต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าคนไทยสามารถทำได้
“ความท้าทายของกีฬาเคิร์ลลิ่งมันอยู่ในการเล่นกันเป็นทีม การวางเกม การวางกลยุทธ์ว่าจะต้องเล่นร่วมกันแบบไหน รวมถึงการสื่อสารที่มีผลต่อทั้งเกมรุกและเกมรับ หากเราสร้างแผนการเล่นที่ดีก็มีโอกาสคว้าชัยได้แน่นอน อีกสิ่งหนึ่งที่ยากพอกันคือการวางน้ำหนักมือเพื่อให้เกิดความพอดีอีกทั้งเพื่อนร่วมทีมก็จะต้องเพิ่มเติมในส่วนของความเร็วของการเคลื่อนที่ ดังนั้นถ้าคนที่มีพื้นฐานการเล่นเปตองมาก่อนก็จะช่วยได้เยอะมากเพราะจะรู้ว่าควรปล่อยลูกไปในทิศทางไหนและน้ำหนักอย่างไร”
เล็กอธิบายความเหมือนและข้อแตกต่างระหว่างเทควันโดและเคิร์ลลิ่งไว้ว่า จุดที่คล้ายกันคือการทรงตัว เช่น เทควันโดจะมีเรื่องของการสร้างบาลานซ์ด้วยการใช้ขาข้างเดียว เช่นกัน เคิร์ลลิ่งก็จะใช้การบาลานซ์ตัวในลักษณะเดียวกัน ถ้ามีการบาลานซ์ที่ดีก็จะช่วยให้การส่งลูกหินออกไปด้วยความแนบเนียน สำหรับสิ่งที่แตกต่างกันคือ เทควันโดคือกีฬาประเภทเดียวหมายความว่าจะต้องทำตามที่โค้ชสั่งบวกกับความคิดของนักกีฬาในขณะทำการแข่งขัน แต่ในขณะเดียวกันเคิร์ลลิ่งเป็นกีฬาประเภททีมที่ต้องอาศัยความเชื่อใจของเพื่อนร่วมทีมเป็นสำคัญ
“ถามว่ามีความกดดันบ้างมั้ย มันก็มีบ้างสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง แต่เราพยายามรักษาสมดุล ไม่อ่อนหรือเครียดจนเกินไป เชื่อมั่นในทีมและแรงใจจากคนรอบข้าง เป้าหมายในการแข่งขันเอเชียน วินเทอร์เกมส์ ครั้งนี้คือจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและหวังว่าจะมีเหรียญติดไม้ติดมือกลับมาแม้จะเป็นครั้งแรกของเราก็ตาม ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ต้องเต็มที่กับการฝึกซ้อมและต้องการแสดงศักยภาพให้ทุกคนเห็นว่าถึงแม้ประเทศไทยจะไม่มีฤดูหนาวแต่พร้อมที่จะเล่นกีฬาวินเทอร์ได้เช่นกัน”
แม้เคิร์ลลิ่งจะเพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทย แต่เล็กเชื่อมั่นว่ากีฬานี้มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ หากได้รับการสนับสนุนและการโปรโมทที่เหมาะสม “บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเล่นกีฬาที่เราถนัดตั้งแต่แรก การลองสิ่งใหม่ ๆ อาจทำให้เราพบสิ่งที่ใช่”
วันนี้ เล็ก ชนาธิป ได้กลับมาสู่เส้นทางนักกีฬาอีกครั้งในฐานะแชมป์ประเทศไทยในกีฬาเคิร์ลลิ่งความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เพียงความภาคภูมิใจส่วนตัว แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า หากกล้าฝันและลงมือทำ แม้แต่เส้นทางใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็สามารถกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จครั้งใหญ่ได้เช่นกัน
TAG ที่เกี่ยวข้อง