ล่าฝันในเอเชียนเกมส์ กับพี่ใหญ่ทีม 4x100 หญิง "มาย" อรอุมา เชษฐา

3 ตุลาคม 2566 คือวันตัดสินครั้งสำคัญของทีม ผลัด 4 × 100 เมตรหญิงไทย เพื่อชิงเหรียญรางวัลในเอเชียนเกมส์ ที่หางโจวประเทศจีน

นี่คือเอเชียนเกมส์ที่เว้นว่างนานที่สุด ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน นำมาสู่ความกระหายซึ่งชัยชนะของนักกีฬาที่ได้เข้าร่วมทุกคน เช่นเดียวกับ มาย อรอุมา เชษฐา และทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิงไทย

นี่คือเรื่องราวสู่เอเชียนเกมส์ครั้งที่สองของมาย และเป้าหมายในฐานะนักวิ่ง  

สู้เพื่อแม่และครอบครัว

มาย อรอุมา เชษฐา นักวิ่งระยะสั้นร่างเล็กทีมชาติไทย ตอนนี้เธออายุ 26 ปีแล้ว ผ่านประสบการณ์ติดทีมชาติมาแล้วหลายครั้ง ทั้งระดับอนุชน เยาวชน จนถึงทีมชาติชุดใหญ่ ก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้ มายเริ่มพัฒนาตัวเองตั้งแต่ชั้นประถม

"หนูเริ่มวิ่งตอน ป. 3 ถึง ป. 4 ตอนนั้นประมาณ 10 ขวบ คือชอบกีฬาอยู่แล้ว เล่นเป็นหมดทุกอย่าง จนมีแข่งของโรงเรียนในเครือ เพื่อไปแข่งระดับอำเภอ และจังหวัด ครูก็เห็นพรสวรรค์เลยต่อยอดมาถึงทุกวันนี้"  

มายเล่าว่า ตอนนั้นครอบครัวค่อนข้างลำบาก แม่อยากให้เรียนต่อ เลยใช้กีฬามาเพื่อทำให้ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประจักษ์บ้านบำรุงก่อน จากนั้นได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำอำเภอ จนเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดได้เพราะการวิ่ง  

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ มายได้รับทุนการศึกษาเรียนฟรีมาโดยตลอด "หนูไม่เคยเสียเงินเรียนเลย จนถึงระดับปริญญา ซึ่งตอนนี้ใกล้จะเรียนจบปริญญาโทแล้ว ครอบครัวก็ภูมิใจมาก ไม่คิดว่าเราจะมาไกลขนาดนี้ เราก็คิดตั้งแต่เด็กว่าจะหาทุนเรียนเอง เพราะแม่บอกตลอดว่าไม่มีปัญญาส่ง แม่ต้องทำงานก่อสร้าง หนูอยู่กับตา ยาย"

จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง จากจังหวัดนครพนม มายพัฒนาตัวเองในด้านการวิ่ง เข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการ จนกระทั่งมีการเปิดคัดกรีฑานักเรียนไทยปีแรก "เคยคัดนักเรียนไทยปีแรก แต่ไม่ติด ตั้งใจมากว่าปีสองต้องติดให้ได้ ก็ได้ติดทีมชาติระดับอนุชนตั้งแต่อายุ 16 ต่อมาจนถึงอายุ 20 หนูมาเป็นสเต็ปเลย"

เส้นทางฮีโร่ซีเกมส์ 3 สมัย

ผ่านเวทีของรุ่นเล็ก ผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องทำให้มายติดทีมชาติอนุชนสองสมัย และก้าวเข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ โดยซีเกมส์ที่มาเลเซียปี 2017 ได้ร่วมทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิงในฐานะตัวสำรอง

"ตอนนั้นหนูเสียใจมากที่ไม่ได้แข่ง เกือบเลิกวิ่งเลยค่ะ เป็นจุดเปลี่ยนของหนู ตอนนั้นปัญหาชีวิตเยอะมาก ต้องเลือกระหว่างอนาคตหรือการวิ่ง ก็กลับไปตั้งไจเรียนอยู่พักหนึ่ง จนสองปีผ่านไป"

ถัดจากซีเกมส์มาเลเซีย มายมีชื่อติดทีมชาติชุดซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ ปี 2019 และได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรก ในฐานะน้องใหม่ ซึ่งอายุน้อยที่สุดในทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิง "หนูประทับใจที่สุดได้วิ่งเป็นไม้แรก ตื่นเต้นมาก เหมือนหัวใจจะหลุดออกมา แต่นาทีนั้นต้องคุมตัวเองให้อยู่ หนูมีอาการสั่นด้วยนะ"

สุดท้ายทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิง คว้าแชมป์ซีเกมส์ฟิลิปปินส์ได้สำเร็จ มายบอกว่าเธอภูมิใจที่ได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีศักยภาพมากพอ

และซีเกมส์ที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม ปี 2021 มาย อรอุมา ก็ติดทีมชาติ และได้ลงเป็นตัวจริงเป็นครั้งที่ 2 ในทีม 4 × 100 เมตรหญิงรับบทเป็นไม้สาม ในฐานะรุ่นพี่ และช่วยพาทีมประสบความสำเร็จอีกครั้ง ต่อด้วยซีเกมส์ที่พนมเปญ 2023 ที่เพิ่งจบไป และป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย

ณ ตอนนี้มายสามารถสร้างบ้านให้แม่ และกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว และส่งหลานชายวัย 14 ปีเรียนหนังสือ "ครอบครัวภูมิใจในตัวหนูมาก หนูไถ่โฉนดบ้านด้วยตัวเอง และกำลังจะซื้อนาให้แม่ทำเกษตรผสมผสาน ดูแลหลานส่งเรียน อยากให้หลานเก่งวิชาการ หนูชอบเลี้ยงหมามาก เลี้ยงไว้หลายตัว ทำให้หลานอยากเป็นสัตวแพทย์ หนูก็จะทำเพื่อเขาให้เต็มที่"

ความฝันสู่เอเชียนเกมส์

เป้าหมายและความฝันของมายจึงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ผลักดันให้เธอยังพัฒนาตัวเองแบบต่อเนื่อง และก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับทวีปเอเชีย ในเอเชียนเกมส์ครั้งหลังสุด มายได้ติดทีมชาติ ไปอินโดนีเซียปี 2018 ในตอนนั้นทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิงไทย ได้อันดับที่ 4 โดยมายวิ่งเป็นไม้ที่ 2 และลงแข่ง 100 เมตรเดี่ยวด้วย

"ตอนนั้นไม่ค่อยฟูลทีม แต่ผลงานออกมาดีมากค่ะ ไม่คิดว่าจะได้ไปเหมือนกัน เพราะเป็นแมตช์ใหญ่มาก เราแพ้มาเลเซียแค่โขกหัว หนูไม่เสียใจ ไม่เสียดาย เพราะเต็มที่แล้ว ทีมหญิงได้แสดงศักยภาพเต็มที่มาก"

นับเป็นการแข่งขันระดับทวีปเอเชียครั้งแรกของมาย จากนั้นยังเคยร่วมแข่งกรีฑาชิงแชมป์เอเชียอีกสามครั้ง ที่อินเดีย กาตาร์ และกรุงเทพฯ 2023 ที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งครั้งล่าสุดนี้มายร่วมทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิงชุดปัจจุบัน ที่ประกอบด้วย ไอซ์ อธิชา น่าน ศุภนิช และลูกกบ สุภาวรรณ

"ชิงแชมป์เอเชียที่กรุงเทพก่อนนี้หนูเคยแข่งมาแล้ว แต่ไม่เคยได้เหรียญเลย จนครั้งนี้ได้เหรียญทองแดง ทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิงภูมิใจมาก เพราะหนูรอคอย หนูร้องไห้ออกมา เพราะพยามเต็มที่ และตั้งใจมาก ช่วงนั้นทุกคนในทีมมีอาการบาดเจ็บ และไม่สมบูรณ์ ได้ซ้อมด้วยกันแค่สามสัปดาห์ แต่ก็สู้สุดใจ แล้วทำได้จริงๆ"

โอกาสครั้งสำคัญในหางโจวเกมส์

หลังการแข่งขันเอเชียนเกมส์ต้องเลื่อนเพราะการระบาดของโควิด ทำให้นักกีฬาต้องรอการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระดับทวีปเอเชียนานเกือบหกปี และวันที่ 3 ตุลาคม 2566 นี้มายและทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิงไทย จะได้ลงสนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่นี้อีกครั้ง

"หลังจบชิงแชมป์เอเชียพวกเราก็ตั้งใจกับเอเชียนเกมส์มาก เป็นความหวังว่าเราจะสามารถทำได้ ทุกคนแก้จุดบอด ทั้งเรื่องการออกบล็อก ส่งไม้ รับไม้ ใจหนูตอนนี้อยากจะแข่งแล้ว เพราะพร้อมมาก รู้สึกอยากสู้ อยากแข่ง หนูจะวิ่งเป็นไม้สามค่ะ"

ครั้งนี้มายถือเป็นพี่ใหญ่ของทีม ที่จะนำพาน้องทุกคนลงแข่งขันในรายการที่ยิ่งใหญ่นี้มายเล่าว่า น้องๆ ทุกคนฟิตทั้งร่างกายและจิตใจ Support กัน ช่วยเหลือและพูดคุยในทีมอย่างดีมาก และมีพลังบวกจากทุกคนที่สนับสนุน

"ครั้งนี้หนูตื่นเต้นกว่าครั้งแรก เพราะทีมทำให้เราอยากแข่ง ซ้อมก็สนุก ทีมเวิร์คดีมาก ทีมนี้สมบูรณ์ที่สุดสำหรับมาย เพราะความผูกพัน ทุกคนดูแลกัน อบอุ่น และเติมเต็ม วันนึงถ้าหนูเลิกแล้ว หนูก็จะคิดถึงทีมนี้ตลอดไป"

เอเชียนเกมส์ในครั้งนี้ มายและทีมผลัด 4 × 100 เมตรหญิง จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในระดับทวีปเอเชีย มายบอกว่าการได้เหรียญในชิงแชมป์เอเชีย ทำให้ทุกคนมุ่งมั่นยิ่งกว่าเดิม และตั้งเป้าจะคว้าเหรียญรางวัลให้ได้

"สำหรับหนูก็คือเต็มที่ใจเราเต็ม 100 แต่ให้การแข่งขัน 150 ทุกคนอยู่ได้ด้วยความหวัง หนูเชื่อว่านักกีฬาทุกคนที่ได้แข่งครั้งนี้ ก็จะทำเต็มที่เพื่อประเทศไทย ทุกคนจะสู้อย่างแน่นอน"